สมุทรปราการ – ไฟฟ้าลัดวงจรไหม้บ้านทรงไทยวอดทั้งหลังย่านพระประแดง ระดมรถน้ำ 7 คัน ฉีดสกัดเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ ค่าสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 31 มกราคม 2561 ร.ต.ท.ธเนศ ศิริโฉม รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านทรงไทย ซึ่งอยู่ภายในซอยเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย 21 (วัดบางหญ้าแพรก ) เลขที่ 26/9 หมู่ 15 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายและเทศบาลใกล้เคียงกว่า 7 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านทรงไทยที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ซึ่งมีบ้านเดียวปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 4 หลัง ได้พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านทรงไทยที่ปลูกสร้างด้วยไม้สัก ซึ่งอยู่ด้านหน้า ด้านข้างเป็นโกดังเก็บอุปกรณ์เครื่องจักรยาน รถแม็คโครและห้องพักคนงาน โดยเพลิงได้ลุกโหมบ้านทรงไทยอย่างรุนแรงเนื่องจากโครงสร้างทำด้วยไม้สัก
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้บ้านทรงไทยเก่าจนวอดหมดทั้งหลังพร้อมทรัพย์สินที่อยู่ภายใน และลุกลามไปลุกไหม้โรงเก็บอะไหล่ชิ้นส่วนรถแม็คโครวอดไปอีก 1 หลัง ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
จากการสอบถามนายภูริพัฒน์ ยิ้มแย้ม อายุ 24 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายชาลี ยิ้มแย้ม อายุ 50 ปี พ่อของตนที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งนอนอยู่ที่บ้านหลังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่ถึงปีซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและคนอื่น ๆ นอนหลับอยู่ในบ้านหลังใหม่ ได้ยินเสียงคล้ายไฟไหม้ไม้มีเสียงดัง เปรี๊ยะ ๆ และมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งเข้ามาในบ้าน ตนจึงลุกขึ้นมาดู ได้พบเห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้ที่ห้องครัวด้านหลังของบ้านทรงไทย ที่ไม่มีใครพักอาศัยอยู่ แต่เอาไว้เก็บข้าวของรวมทั้งทรัพย์ของมีค่า ที่ยังไม่ได้ย้ายเข้าบ้านหลังใหม่
โดยไฟได้ลุกโหมอย่างรุนแรงตนจึงได้ตะโกนเรียนคนอื่น ๆ ให้ตื่นมาช่วยกันเอาสายยางน้ำมาฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามแต่สกัดไม่อยู่เนื่องจากตัวบ้านทำด้วยไม้สักเก่า จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกโหมอย่างรุนแรง จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้โดยละเอียดอีกครั้งให้แน่ชัด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
