ตำรวจสำโรงเหนือ ตามรวบสองหนุ่มปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด หลังยกพวก ไปทำร้ายร่ายกายลูกหนี้จนได้รับบาดเจ็บ แล้วลูกหนี้ที่ได้รับบาดเจ็บได้นำร่างอันสะบักสะบอมเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวกับผู้ต้องหาทั้งสองว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกกอกเบี้ยเกินอันตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนควบคุมตัวส่งตัวพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือเพื่อดำเนินการต่อไป
เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 6 พฤษภาคม 2562 ที่ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.เฉลิมพล จุมปูอา รอง ผกก.สส. ร่วมกันสอบปากคำนายอรัญ บุญชื่น อายุ 34 ปี นายสุรชัย แก้วจิตงามกุศล อายุ 37 ปี สองผู้ต้องหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกกอกเบี้ยเกินอันตราที่กฎหมายกำหนด
ข่าวน่าสนใจ:
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
ทั้งสืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายชยานันท์ พงษ์พะยอม อายุ 41 ปี ได้พาร่างอันสะบักสะบอมเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ว่าถูกผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าหน้ารุมทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณลานจอดรถคอนโด เทพาวิลล์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยนายชยานันท์ ได้เล่าว่า เมื่อประมาณวันที่ 8-9 เมษายน ที่ผ่านมา ตนได้ไปยืมเงินจาก นายอรัญ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยทำงานอยู่ที่เดียวกันมา จำนวน 2 พันบาท พร้อมกับได้ตกลงกันว่า จะส่งดอกเบี้ยคืน ร้อยละ 20 บาท ต่อเดือน ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาตนก็ส่งดอกเบี้ยมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตนหมุนเงินไม่ทันจึงขาดส่งดอกเบี้ย นายอรัญ ได้ส่งข้อความมาทวงถามจนมีปากเสียงและท้าทายกัน ก่อนที่นายอรัญ จะยกพวกมาทำร้ายตนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะหลบหนีไป และในเวลาต่อมา นายอรัญ และพวก ทราบว่านายชยานนท์ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จึงได้พากันเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และปฎิเสธว่าพวกตนไม่ได้เป็นแก๊งเงินกู้โหดตามที่ผู้เสียหายอ้าง
โดยนายอรัญ หนึ่งในผู้ต้องหา ได้เล่าว่า ตนเคยเป็นเพื่อนกับนายชยานันท์ ผู้เสียหายและเคยทำงานอยู่ที่เดียวกัน โดยเมื่อเดือนที่แล้วนายชยานันท์ ได้มาขอยืมเงินกับตนจำนนวน 2 พันบาท โดยมีการตกลงกันว่าจะจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ซึ่งตนจะไปเก็บดอกเบี้ย 15 วันต่อครั้ง ล่าสุดนายชยานันท์ ไม่ยอมจ่ายเงินค่าดอกเบี้ยให้ตนตามที่ตกลง เมื่อทวงถามไปผัดผ่อนมาตลอด กระทั้งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตนได้ส่งข้อความไปทวงอีกครั้ง และเกิดการโต้เถียงกันที่ตนส่งข้อความไปทวงเงินแต่นายชยานันท์ กลับพูดจาท้าทาย ด้วยโมโหที่ถูกท้าทาย ตนจึงได้พาเพื่อนเดินทางไปหานายชยานันท์ เมื่อเดินทางไปถึงก็ได้เกิดมีปากเสียงกันอีก ก่อนที่นายชยานันท์ จะเข้ามาผลักตนและยังพยายามใช้มีดจะฟันใส่ตนอีก ตนจึงได้ป้องกันตัวผลักนายชยานันท์ จนล้มลงกับพื้นก่อนที่ตนจะเข้าไปชกต่อยจนนายชยานันท์ จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยยืนยันว่าตนเองไม่ใช้แก๊งเงินกู้นอกระบบแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ต้องหาแล้วและประวัติของผู้ต้องหา ทราบว่าไม่ใช่ แก๊งปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายรู้จักกันและเป็นการตกลงกันทั้งสองฝ่าย แต่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวกับผู้ต้องหาทั้งสองว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกกอกเบี้ยเกินอันตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนควบคุมตัวส่งตัวพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือเพื่อดำเนินการต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: