ตำรวจบางแก้วบุกยึดมีดดาบยาวเกือบเมตรรวม 4 เล่มที่ใช้ฟันคอน้องเบิ้ล ซุกหน้าหมู่บ้าน ขณะที่ รอง ผบ.ตร. เตรียมตั้งโมเดลค่ายปรับเปลี่ยนละลายพฤติกรรมหวังลดปัญหาความขัดแย้งต่างสถาบัน
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ สามารถจับกุมตัวนายเล็ก และนายใหญ่ (นามสมมุติ) อายุ 15-17 ปี สองเยาวชนที่ร่วมก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันคอนาย รัชตะ พิลาหลวง หรือน้องเบิ้ล อายุ 15 ปี นักเรียนของโรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ เสียชีวิต เหตุเกิดที่ภายในซอยหลังวัดหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่ สภ.บางแก้วสมุทรปราการ เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีในเรื่องนี้ พร้อมกำชับพนักงานสอบสวนให้ทำสนวนคดีนี้อย่างรัดกุมและตรงไปตรงมา และหากพบว่ามีผู้ใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องทางคดีสั่งให้ดำเนินการทางกฎหมายทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือบุคคลใดที่ให้ความช่วยเหลือทั้งจัดหาอาวุธ ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงพาหลบหนีหลังก่อเหตุหากตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
และจากการสอบถามสองผู้ก่อเหตุเบื้องต้น ได้ให้การรับสารภาพว่า หลังก่อเหตุพร้อมกับเพื่อนรวมแล้วประมาณ 7-8 คน ได้นำอาวุธมีดทั้งหมดไปซุกซ่อนไว้ที่หลังพุ่มไม้ใกล้หน้าหมู่บ้าน ศุภาลัย GARDEN VLLE ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบตร. จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบยังจุดดังกล่าว ได้พบอาวุธมีดดาบยาวเกือบ 1 เมตรแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 3 เล่มมีดขออีก 1 เล่ม วางซุกซ่อนข้างพุ่มไม้ห่างจากหน้าหมู่บ้านประมาณ 200 เมตร โดยนายเล็ก ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีดทีฟันคอน้องเปิ้ลเสียชีวิต เป็นมีดดาบเล่มที่ยาวที่สุด จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เข้าเก็บหลักฐานและดีเอ็นเอและรายนิ้วมือเพื่อนำมาเทียบเคียงอีเอ็นเอหรือลายนิ้วมือแฝง
หลังจากนั้น พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเรียนอยู่ และโรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ โรงเรียนที่ผู้ตายและบาดเจ็บเรียนอยู่ สองสถาบันการศึกษาที่เป็นคู่ขัดแย้ง เพื่อพูดคุยและขอความร่วมมือจากผู้บริหารของทางสองโรงเรียนทั้งสอง ให้หามาตรการคุมเข้มนักเนียนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไม่ให้กลับมาก่อเหตุซ้ำหรือเปิดศึกล้างแค้นกันอีก และในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ปิดเทอม ทางผู้บริหารทั้งสองสถาบันจะคัดเลือกนักเรียนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน รักสถาบันในทางที่ผิด มาเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งในค่ายนี้จะมีการละลายพฤติกรรมของนักเรียนทั้งสองสถาบัน ให้สองโรงเรียนนั้นหล่อหลอมพฤติกรรมใหม่ ไม่เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ตามโครงการ ค่ายเยาวชนอาสา พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้นักเรียนเหล่านี้นำแรงขับหรือพลังวัยรุ่นที่ยังมีอยู่มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในเชิงบวก จึงจำเป็นต้องเข้าค่ายละลายพฤติกรรมปลุกฝั่งค่านิยมที่ถูกต้องปลูกฝั่งความรักสถาบัน ในทางที่ถูกต้อง จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งโครงการนี้ท่าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ จะเป็นผู้ลงมาดูแลและจัดค่ายด้วยตัวเอง
สำหรับในเรื่องคดีต้องแยกออกเป็นสองคดี คือประการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และประการที่สองคดีพยามฆ่าโดยไตรตรองไว้ก่อน สำหรับคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งสองคนได้แล้วคือเยาวชนวัย 15-17 ปี ทั้งคนขับรถและคนลงมือก่อเหตุ ส่วนคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นั้นสืบเนื่องมากจากวันเกิดเหตุมีการก่อเหตุสองจุด ต่างกรรมต่างวาระและคนลงมือก่อเหตุก็คนละคน แต่ว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งในคดีนี้ จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 6 คนขณะทราบตัวหมดแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
