เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้ง พบศพหนุ่มนิรนามเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ คาดฉีดสารเสพติดเข้าเส้นเกินขนาดจนน็อคดับคาห้องน้ำ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ หลังลานจอดรถใกล้กับตลาดลิขิต กลางซอยด่านสำโรง 42 ชุมชนสำโรงพัฒนา 2 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำที่สร้างด้วยปูนติดกันจำนวนสองห้องตั้งอยู่หลังลาดจอดรถ ของตลาดดังกล่าว ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำห้องที่สองพบว่าประตูถูกล็อคกลอนจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้ปีนขึ้นไปบริเวณช่องลมก่อนที่จะทำการปลอดล็อคกลอนออกและเปิดประตูออกมา ภายในห้องน้ำห้องดังกล่าวพบศพชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 35-40 ปี นั่งคุดคู้อยู่กับพื้นหัวซุกอยู่กับถังพลาสติก ในสภาพไม่ใส่กางเกงสวมเสื้อยืดสีฟ้า จากการตรวจสอบสภาพศพพบมีบาดแผลแขนขวาเป็นจุดคล้ายถูกเข็มทิ่มมีเลือดไหลออกมาเป็นทาง ที่พื้นห้องน้ำดังกล่าวพบเข็มฉีดยาซึ่งถูกใช้งานแล้วตกอยู่ที่พื้น 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบกางเกงของผู้ตายที่ถอดกองไว้ในห้องน้ำพบเงินสดจำนวน 60 บาท แต่ไม่พบเอกสารระบุว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน คาดเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม.
นายประดิษฐ์ ธิจินะ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นช่างเย็บผ้าที่มาเช่าเปิดร้านอยู่บริเวณดังกล่าว ให้การว่า ก่อนพบศพเมื่อช่วงสายของวันนี้ในขณะที่ตนกำลังนั่งเย็บผ้าอยู่ก็รู้สึกปวดท้อง จึงได้เดินมาจะเข้าแต่เมื่อไปถึงก็พบว่าประตูถูกล็อคจากภายใน ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีคนเข้าอยู่ จึงได้เดินกลับมาเย็บผ้าต่อ จนกระทั้งเวลาผ่านจนถึงช่วงบ่าย ตนก็เดินกลับมาจะเข้าห้องน้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังพบประตูล็อคอยู่ จึงเอะใจเนื่องจากคนที่เข้าไปนั้นอยู่นานผิดปกติและเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ จึงได้ไปตามนายชาติชาย มหาภาพ ประธานชุมชน เข้ามาตรวจสอบ โดยเคาะประตูเรียกและปีนขึ้นไปมองลอดช่องระบายลมลงมาจึงพบว่ามีชายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ จึงได้โทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าชายที่เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน เนื่องจากสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแล้วไม่มีใครเคยเห็นหน้าหรือรู้จักแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการใช้สารเสพติดที่ได้ฉีดเข้าเส้นเลือดปริมาณมากจนเกิดอาการช็อค อย่างไรก็ตามได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
