จากกรณีที่วัยรุ่นเขตอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ยกพวกใช้ปาระเบิดปิงปองใส่ชาวบ้าน ก่อนใช้มีดรุมฟันซ้ำ อย่างป่าเถื่อนเพียงแค่ขับรถผ่านหน้า ที่ปากซอยช้อยเพ็ง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับได้แล้ว 4 เยาวชนที่ก่อเหตุในวันนั้น
วันที่ 19 พฤษภาคม 2562 จากกรณีที่วัยรุ่นเขตอำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ ยกพวกใช้ปาระเบิดปิงปองใส่ชาวบ้าน ก่อนใช้มีดรุมฟันซ้ำ อย่างป่าเถื่อนเพียงแค่ขับรถผ่านหน้า ที่ปากซอยช้อยเพ็ง อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ในเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยที่ผู้ได้รับบาดเจ็บได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
ข่าวน่าสนใจ:
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- ตรัง ผลผ่าพิสูจน์การตายพะยูน 2 ตัว ผอม หญ้าในท้องน้อย ป่วยตาย
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ธุรกิจโก-ลกเริ่มหวั่น! นทท.ลดฮวบ-หลังมาเลย์ดีเดย์ 1 ธค.เข้า-ออกผิดกฎหมาย - จับทันที
ส่วนความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้เชิญตัวกลุ่มเยาวชนทั้งหมดที่ปรากฏในภาพวงจรปิดทั้งหมด 4 รายอายุระหว่าง 16-17 ปี และผู้ปกครองมาทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดย พ.ต.อ.อนันต์ ชัยชาญ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและป้องกันปราบปราม ลงพื้นที่เก็บข้อมูลหลักฐาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งทราบตัวกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุแล้ว มีทั้งหมด 5 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในการอาชีพในพื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ เนื่องผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนจึงมีขั้นตอนมากกว่าที่จะออกหมายจับได้ ส่วนผู้ปกครองอาจจะมีความผิด ตาม พรบ. คุ้มครองเด็ก ส่วนในสถาบันที่อยู่ในพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีมาตรการอยู่แล้วเป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยตอนเปิดเทอมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการปิดล้อมตรวจค้นที่โรงเรียน พร้อมประชุมครูฝ่ายปกครอง วางมาตรการเข้มเพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท มีการจัดตำรวจไปเฝ้าระวังทั้งเช้าและเย็น ส่วนการดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีสถานหนักอยู่แล้ว
จากการสอบถามผู้ปกครอง เล่าว่า ว่าตนเองไม่ทราบเรื่องลูกของตนไปก่อเหตุ โดยที่ตนต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้า โดยที่ลูกของตนติดเพื่อน โดยเมื่อปีที่แล้วลูกของตนก็โดนทำร้ายและทำลายรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นมาตนก็คอยตักเตือนมาตลอดแต่พอพ้นสายตาก็ไม่ทราบมาก่อนว่าลูกชายไปรวมตัวกับเพื่อนออกมาก่อเหตุ ครั้งนี้ก็เช่นกันลูกชายก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังจนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเชิญตัวมาสอบปากคำถึงได้ทราบว่าลูกไปร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมีและครอบครองวัตถุคล้ายสิ่งเทียมระเบิดซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ร่วมกันพกพาสิ่งเทียมคล้ายกับวัตถุระเบิดไปในทางเมืองสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต มีและร่วมกันพกพาอาวุธไปในทางเมืองชุมชนสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันใช้อาวุธทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่วมกันทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น ส่วนข้อหาพยามฆ่าด้วยหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานหากเข้าข่ายก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: