เกิดเหตุระทึกรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ก่อนจะทับร่างหนุ่มใหญ่วัย 57 ปี เละกลางถนนคลองขุด-คลองเก้า
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ร.ต.อ.พงษ์นรินทร์ นนท์ตานอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่าอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เฉี่ยวชนจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต ภายในถนนคลองขุด – คลองเก้า มุ่งหน้าแยกคลองขุด ปากทางเข้าซอยจงศิริ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อนายบุญช่วย ประเสริฐเชื้อ อายุ 57 ปี นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนนในสภาพท้องแตกลำไส้ออกมากองอยู่ที่พื้นและกะโหลกแตกมันสมองกระจ่ายเกลื่อพื้นถนน เช่นเดียวกันในสภาพร่างกายแหลกเหลว ขาผู้ตายยังพาดอยู่กับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน ทะเบียน 1 กก 4134 สมุทรปราการ ที่ล้มคว่ำอยู่กลางถนนด้านท้ายมีร่องลอยการถูกชน จนไฟท้ายและบังโครนหลังหลุดออก ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยีห้อ อีซูซู สีขาว ทะเบียน 71-8880 ระยอง หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปไกลกว่า 4 กิโลเมตร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมเอาไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบเห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาตามทางมุ่งหน้าแยกคลองขุด โดยมีรถบรรทุกพ่วงที่วิ่งตามหลังมาและเฉี่ยวชนเข้ากับจักรยานยนต์คันดังกล่าว จนรถของผู้ตายล้มตัวผู้ตายกระเด็นเข้าใต้ท้องรถบรรทุกจึงถูกล้อหลังของรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวทับตั้งแต่ศีรษะจนจนถึงปลายเท้า จนร่างการแหลกเหลวเสียชีวิตคาที่ส่วนรถบรรทุกพ่วงได้ขับหลบหนีไปไกลกว่า 4 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับ ได้ที่ ถนนเทพารักษ์ กม. 9 ปากทางเข้าซอยขจรวิทย์ ต.บางพลีใหญ่ ทราบชื่อผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวชื่อนายนิคม ยังสันเทียะ อายุ 38 ปี โดยที่นายนิคมได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ทราบว่าตนเองขับรถไปเหยียบคนเสียชีวิตเท่านั้น
ด้านนายนิคม ยังสันเที๊ยะ อายุ 38 ปี ให้การว่า ตนเองมีรู้ว่าขับรถเหยียบจักรยานยนต์ ตนเองก็เลี้ยวเข้าซอยเพื่อไปส่งของตามปกติ จนมีรถที่ติดตามมาบอกว่าทับจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต มาทราบอีกที่เมื่อมีพลเมืองดีขี่รถตามไปบอกว่าตนขับรถไปทับคนเสียชีวิต ตนจึงได้ขับรถวนมาเพื่อที่จะกลับรถไปดูที่เกิดเหตุ โดยยืนยันว่าไม่คิดหนีแต่อย่างใด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวโชว์เฟอร์รถบรรทุกพ่วงมาทำการสอบปากคำที่โรงพักโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
