จากกรณีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพพฤติกรรมคนร้ายก่อเหตุลักจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามหน้าหอพักต่าง ๆ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจบางพลีสามารถรวบแก็งค์ลักรถจักรยานยนต์ได้แล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า หลังจากลักจักรยานยนต์ไปแล้วจะทำการชำแหล่ะแยกอะไหล่ทันที จากนั้นจะนำไปประกาศขายในตลาดมืดตามเว็บหรือกลุ่มเฟซบุ๊ก เงินที่ได้มาก็นำมาแบ่งกันใช้ในการเที่ยวเตร่และจ่ายค่านมลูก
จากกรณีที่มีผู้เสียหายหลายรายนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถูกคนร้ายตะเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ตามหน้าหอพักต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ที่ 12 มิถุนายน 2562 พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา รอง ผกก.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันวางแผนสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งค์นี้โดยนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ตามสถานที่ต่าง ๆ มาไล่ย้อนหลังดูจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมด นายเบนซ์ หัวหน้าแก๊ง / นายบอล และ นายยอด ซึ่งทั้งหมดอายุเพียง 16 -17 ปี พร้อมยึดของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ตระเวนก่อเหตุได้จำนวน 2คัน และซากอะไหล่รถจักรยานยนต์ที่ถูกชำแหล่ะอีกจำนวนมาก โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านอำเภอบางพลีบางพลี ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมที่โรงพัก
จากการสอบสวนนายเบนซ์ หัวหน้าแก๊ง ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนและเพื่อนได้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และถูกส่งตัวเข้าบ้านเมตตา และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน และไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ประกอบกับตนมีครอบครัวและลูกตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาจึงตัดสินใจใช้ความรู้เดิมที่เคยก่อเหตุชักชวนเพื่อนรวมแก๊งค์ออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าหอพักต่าง ๆ โดยจะเลือกรถของผู้เสียหายที่จอดในที่เปลี่ยว ปลอดคน และเลือกรถที่ไม่มีระบบการป้องกันที่แน่นหนา เช่น ล็อกเพียงคอรถเท่านั้น โดยจะใช้วิธีต่อสายตรงและถีบคอรถให้หักและสตาร์ทเครื่องขับออกไป แต่หากพบว่ามีการล็อกที่แน่นหนา เช่น ล็อกจานเบรกหรือล่ามโซ่ ก็จะไม่เอาเนื่องจากใช้เวลานาน
นายเบนซ์ ยังสารภาพต่ออีกว่า เคยก่อเหตุในคืนเดียวมากสุดถึงสามคัน ซึ่งหลังจากได้รถมาก็จะหาที่เปลี่ยนหรือบ้านล้างหรือหมู่บ้านล้างปลอดคนเข้าไปชำแหล่ะแยกอะไหล่ทันทีซึ่งใช้เวลาในการชำแหล่ะต่อคันประมาณ 30 นาที จากนั้นก็จะนำอะไหล่ที่ได้ทั้งหมดไปลงขายในตลาดมืดตามเว็บหรือกลุ่มในเฟซบุ๊ก ในราคาหลักร้อยถึงหนึ่งพันบาท ส่วนเงินที่ได้มาก็นำมาแบ่งกันใช้ในการเที่ยวเตร่และจ่ายค่านมลูก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งสามว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำร้ายสิ่งกีดขวาง ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
