หนุ่มวัย 35 ปี เลือดร้อน ดื่มเหล้าย้อมใจก่อนไปทวงหนี้สาวเลขาบริษัท ถึงที่ทำงาน แต่สาวเลขาไม่มีเงินจะคืนให้ ก่อนจะชักปืนลูกโม่ ยิงเข้ากลางหน้าผาก สาวเลขา ดับคาโรงงานย่านบางพลี ก่อนขับขี่รถจักรยานยนหลบหนีกลับไปที่ห้องพักเพื่อเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวหนี ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามอย่างกระชั้นชิดและสามารถจับตัวได้คาห้องพักย่านหลังตลาดบางพลีซิตี้
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 16 มิถุนายน 2562 ร.ต.อ.ณธรรศ โฉมยา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงถูกยิงเสียชีวิตภายในอาคารโรงงานฝ่ายผลิตของบริษัทไทยโพลิเมอร์ ซัพพลาย จำกัด เลขที่ 33/39 หมู่ 10 ซอยบางปลา 16 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก. พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิปอเต๊กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- 33 ปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 13-22 ธันวาคม 67
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ตร คลี่ปม หนุ่มวัย 29 ปี ถูกรถไฟชน มีเสื้อมัดเท้า ยืนยันเป็นเพียงมัดแทนรองเท้าเดินริมทางรถไฟ
ที่เกิดเหตุภายในอาคารโรงงานได้พบร่างของ น.ส.สุพรรษา ภู่เพชร อายุ 30 ปี เลขาผู้จัดการของบริษัทดังกล่าวนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่พื้นของโรงงาน ในสภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณกลางหน้าผาก จากการสอบถามทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเจษฎา หอยสังข์ อายุ 35 ปี อดีตพนักงานคิวซีของโรงงานดังกล่าว หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นนินจา สีดำ ทะเบียน 6 กด 338 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปทางปากซอยมุ่งหน้าไปทางถนนเทพารักษ์ จึงประสานเจ้าหน้ากองพิสูจน์เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้าผู้ตายและผู้ก่อเหตุเคยทำงานที่เดียวกัน และผู้ก่อเหตุมาติดพันผู้ตายอยู่ และให้ผู้ตายยืมเงินไปกว่าหนึ่งแสนบาท ต่อมาผู้ก่อเหตุมารู้ที่หลังว่าผู้ตายมีครอบครัวอยู่แล้ว ผู้ตายจึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ผู้ก่อเหตุก็พยายามง้อขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่เล่นด้วยและเมื่อปีที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุเคยขู่จะฆ่าผู้ตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แถมยังบอกว่าเคยยิงคนตายมาแล้วครั้งหนึ่งไม่กลัวใครทั้งนั้น หลังจากที่ผู้ตายไม่เล่นด้วยแล้วผู้ก่อเหตุก็เลยหาเรื่องทวงเงินที่ผู้ตายยืมไป แต่ผู้ตายยังไม่มีเงินใช้คืนให้ผู้ก่อเหตุ ต่อเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ ผู้ก่อเหตุได้ลาออกจากงาน จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำของวันนี้ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยายนต์มาหาผู้ตายที่บริษัท ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายกำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวจะกลับบ้านพัก ผู้ก่อเหตุก็เดินสวนเข้ามาในบริษัทพอดี พร้อมทั้งทวงถามเงินแสนที่ผู้ตายยืมไป ผู้ตายตอบว่าเงินยังไม่พร้อมที่จะคืนให้ ผู้ก่อเหตุจึงได้ชักปืนลูกโม่ขนาด .38 ออกมาจ่อยิงที่หน้าผู้ตาย 1 นัด ร่างของผู้ตายได้ทรุดลงไปนอนฟุบกับพื้นเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุ นายเจษฎา ได้ออกมาจากห้องที่เกิดเหตุ แบบสบายใจไม่รีบร้อนก่อนที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าโรงงานหลบหนีไป
หลังทราบข้อมูล พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา รอง ผกก.สส. ได้นำกำลังเจ้าหน้าชุดสืบสวนออกติดตามผู้ก่อเหตุไปอย่างกระชั้นชิด และสามารถจับกุมตัวนายเจษฎา ผู้ก่อเหตุได้ในขณะหลบหนีเข้าไปที่ห้องพัก หลังตลาดบางพลีซิตี้ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเก็บเสื้อผ้าเตรียมที่จะหลบหนี และทั้ง ขนาด ยึดอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุได้จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีกจำนวนหลายนัด พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่เหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: