รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฎิบัติ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการหอพักบุกรุกคลองสาธารณะ ทำการเรียกผู้ประกอบการ มาชี้แจง กรณีข้อร้องเรียนกับทางคณะทำงานเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 มีนาคม 2561 พล.ต.ปรเมศวร์ กันมินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฎิบัติ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ( ผอ.ศปป 4.กอ.รมน.)พร้อมด้วยคณะทำงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเดินทางเข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการลักษณะรีสอร์ท เรือนริมน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังตลาดเสริมสุข ริมคลองสำโรง ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนว่าสถานประกอบการดังกล่าวมีการบุกรุกที่สาธารณะและลำคลอง
แต่เมื่อเดินทางไปถึงได้พบว่าสถานประกอบการดังกล่าวปิดประตูด้านหน้าและล๊อกกุญแจเอาไว้พร้อมติดป้ายผ้ามีข้อความว่า ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ที่ดินส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ จึงได้เปลี่ยนเป็นการนั่งเรือเข้าทางด้านหลังสถานที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดกับคลองสำโรง และพยายามติดต่อเจ้าของสถานประกอบการ ที่อ้างว่า ไม่สามารถมาอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบได้ เนื่องจากอยู่ต่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงตรวจสอบแนวเขตพร้อมประสานเจ้าหน้าที่รางวัดของสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ นำเครื่องรางวัดทางอากาศระบบ GPS มาทำการตรวจวัดแนวทีดินของสถานประกอบการดังกล่าว ผลการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าสถานประกอบการดังกล่าวน่าจะมีการลุกล้ำที่สาธารณะและลำคลองจริงแต่คงต่อรอผลการรางวัลอย่างเป็นทางการอีกครั้งถึงจะยืนยันได้
พล.ต.ปรเมศวร์ กันมินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฎิบัติ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางศูนย์ประสานการปฎิบัติ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่ามีผู้ประกอบการ เรือนริมน้ำ ได้ปลูกสร้างอาคารรุกล้ำเข้ามาในคลองสำโรงซึ่งเป็นคลองสาธารณะ และเปิดให้บริการในลักษณะห้องเช่ารายวันและไม่มีการขออนุญาต หรือเสียภาษี รายได้แต่อย่างใด และยังมีการปล่อยน้ำเสียมลภาวะลงแหล่งนำสาธารณะ ซึ่งในวันนี้ทาง กอ.รมน. ส่วนกลาง ได้เข้ามาตรวจสอบเพื่อที่จะแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น โดยได้ลงพื้นที่ดูสถานที่จริงพร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายคือทั้งฝ่ายผู้ร้องเรียนและฝ่ายผู้ถูกร้องเรียน แต่จากการเข้ามาตรวจสอบในวันนี้ ผู้ประกอบการ ไม่ให้ความร่วมมือ จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบด้านในได้ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางคณะทำงานของจังหวัดสมุทรปราการ ทำการเรียกผู้ประกอบการ มาชี้แจง กรณีข้อร้องเรียนกับทางคณะทำงานเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
