รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เลี้ยวกลับรถ ถูกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่วิ่งมาทางตรงพุ่งชนอัดก็อปปี้อย่างแรงจนหัวลากยุบคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธงได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนกันจำนวน 2 คันและรถยนต์กระบะอีก 1 คันที่บริเวณจุดกลับรถบนถนนบางนาตราดหลักกิโลเมตรที่ 23 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายใน หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูและอุปกรณ์ตัดถ่างเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อคันแรก ยี่ห้อ ฮีโน่ สีเหลือง ทะเบียนหัวลาก 77-4367 กทม. หางพ่วง 75-9500 กทม.จอดขวางอยู่เต็มถนน โดยมีรถพ่วง 18 ล้อยี่ห้อ ฮีโน่ หัวสีขาว ทะเบียน 81-6317 สุโขทัย หางพ่วง 81-7598 สุโขทัย ชนอัดติดอยู่ที่ด้านท้าย และรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนด์ ทะเบียน ฒถ 2791 กทม. ถูกเฉี่ยวชนเข้าที่แก้มหน้าด้านซ้ายจนยุบได้รับความเสียหายอีก 1 คัน โดยภายในรถพ่วง 18 ล้อคันที่สองที่ชนท้ายพบร่างของนาย บุญทอม รัศมีเดือน อายุ 34 ปี คนขับติดคาอยู่ในซากรถถูกคอนโซนหน้ารถทับขาทั้งสองข้างอยู่เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างมาทำการตัดโครงเหล็กโครงสร้างรถออกและทำการถ่างคอนโซนหน้ารถออกจากกันจนสามารถนำขาทั้งสองข้างของนายบุญทอม ออกมาได้ก่อนช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลร่วมใจประชารักษ์ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านค้าในระยะไกลบันทึกภาพเอาไว้ได้
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดมุมไกลจะเห็นได้ว่าขณะที่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อคันแรกกำลังเลี้ยวกลับรถขวางเต็มถนน ปรากฏว่ามีรถบรรทุกพ่วงคันที่สองที่ขับมาทางตรงเบรกไม่อยู่พุ่งชนเข้าที่บริเวณช่วงท้ายของรถพ่วงคันแรกเข้าอย่างจัง
จากการสอบถามนายสมเกียรติ จิอู๋ อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วงตันแรกที่เลี้ยวกลับรถ ได้ให้การว่า ตนเองกำลังจะไปส่งสินค้าที่คลังสินค้าบางนา กม.20 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจึงชะลอความเร็วเพื่อรอกลับรถพอได้จังหวะขณะที่มีรถยนต์กระบะหนึ่งในคู่กรณี ได้จอดเพื่อให้ตนเองเลี้ยวกลับรถ แต่เป็นจังหวะที่รถพ่วงคู่กรณีที่ขับมาทางตรง และเบรกไม่อยู่เนื่องจากบรรทุกดินมาเต็มคันได้พุ่งชนรถยนต์กระบะที่จอดอยู่กลางถนน ซึ่งคนขับได้พยายามหักหลบ ก่อนที่จะพุ่งชนท้ายรถของตนอย่างจังจนทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บและติดภายในดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: