ผู้อำนวนการ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ชี้แจ้งภาพรับน้องพิเรน ยืนยันเป็นภาพเก่าเมื่อปี 52 หลังมีคนโพสภาพชายคาดว่าเป็นรุ่นน้อง 4 คน แก้ผ้ายืนโกงโค้ง โดยมีรุ่นพี่ ที่สวมเครื่องแบบคล้ายกับเด็กอาชีวะ ใช้สีสเปร์พ้นบริเวณก้นและอวัยวะเพศ รวมทั้งตามร่างกาย
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมรับน้องสุดพิเรน ซึ่งเป็นภาพชายคาดว่าเป็นรุ่นน้อง 4 คน แก้ผ้ายืนโกงโค้ง โดยมีรุ่นพี่ ที่สวมเครื่องแบบคล้ายกับเด็กอาชีวะ ใช้สีสเปร์พ้นบริเวณก้นและอวัยวะเพศ รวมทั้งตามร่างกาย เป็นที่วิภาควิจารณ์อย่างหนัก ในโลกโซเชียลมีเดีย ถึงความไม่เหมาะสมของการจัดกิจกรรมรับน้องแบบภิสดานดังกล่าว และมีการแชร์ไปตามสื่อโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เข้าพบผู้อำนวยการ ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังมีการระบุว่าพฤติกรรมการรับน้องภิสะดานดังกล่าวเป็นนักศึกษาของสถาบันดังกล่าว
นายพิเชฎฐ์ สุคนธ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ให้กล่าวว่า ภายหลังจากได้มีภาพกิจกรรมรับน้องที่ถูกโพสในโลกเชียลมีเดีย และถูกระบุว่า เป็นนักศึกษาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ทางวิทยาลัยได้สอบถามไปยังคณะครูแผนกช่างยนต์ ร่วมทั้งศิษย์เก่าที่จบการศึกษาไปแล้ว เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าภาพที่ปรากฎเป็นนักศึกษาของทางวิทยาลัยหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบการแต่งกาย พบว่าเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อในอดีต ตั้งแต่ปี 52 ซึ่งนักศึกษาทั้งหมดทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ได้จบออกไปทำงานหมดแล้ว ส่วนเจตนาคนที่นำภาพดังกล่าวมาโพสนั้น ตนเองก็ไม่อยากจะไปพูดถึงความคิดของเค้าว่าต้องการอะไร แต่เราเองมีหน้าที่ต้องสร้างความเข้าใจและค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นเด็กที่ศึกษาอยู่ปัจจุบันจริง ก็ต้องต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาโทษ ตามระเบียบ เพราะท่านสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ก็ให้นโยบายไว้ว่าห้ามจัดกิจกรรมรับน้องเด็กขาด รวมถึงได้มีหนังสื่อราชการเวียนไปตามสถาบันอาชีวะทั้งภาครัฐและเอกชนห้ามให้มีการรับน้อง และได้เน้นย้ำในวันประชุมผู้ปกครองทุกปี อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีพบว่ามีรุ่นพี่พารุ่นน้องไปทำกิจกรรมรับน้องนอกสถานศึกษา ทางวิทยาลัยจะมีการพิจารณาคาดโทษตามระเบียบของกระทรวงศึกษา และช่วงนี้ก็เป็นช่วงปิดเทอม ซึ่งวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ เพิ่งปิดไปได้ 2 อาทิตย์ และอยู่ระหว่างการเปิดรับนักศึกษาใหม่ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการรับน้องในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงสื่อทางโซเชียลหรือกลุ่มต่าง ๆ ในกรณีที่นำภาพหรือข้อมูลต่าง ๆ มาลงในโซเชียลมีเดีย โดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร ก่อนที่จะส่งต่อกันโดยไม่คำนึงว่าข้อมูลที่ส่งต่อมานั้นจะก่อให้เกิดผลเสียกับตัวบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ
