ชาวคลองด่าน เฮ หลังระดมกำลังซ่อมคันดินป้องกันน้ำทะเลหนุนตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงดึกได้สำเร็จ โดยการระดมกระสอบบรรจุทรายเอาไว้ภายในและนำมาวางสลับกับดินเหนียวที่นำมากั้นเป็นคัน เพื่อเพิ่มน้ำหนักและเสริมการยึดตัวของดินเหนียวสร้างแรงประทะกันมวลน้ำทะเลจากภายนอก จนน้ำเริ่มมีปริมาณลดลง
สถานการณ์การซ่อมแซมและวางแนวคันดินป้องกันน้ำทะเลหนุนสูงในค่ำคืนนี้ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างอาคารประตูระบายน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตรหลังใหม่ด้านทิศเหนือ ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จากที่ช่วงหัวค่ำคันดินกั้นน้ำเกิดการยุบตัว เนื่องจากในวันนี้มีฝนตกลงมาทั้งวันทำให้ชั้นดินเกิดการอ่อนตัว ไม่สามารถนำรถขึ้นไปกดชั้นดินให้แน่นได้ ในขณะเดียวปริมาณน้ำทะเลเริ่มสูงขึ้นเลื่อย ๆ และได้มีการระดมคนงานและทหารกองช่างอาสา ของกองพันทหารราบที่ 11 เข้าระดมกระสอบบรรจุทรายเข้ามาวางเสริมคันดินเพิ่มในจุดที่เกิดการยุบตัวลง และเดินเครื่องสูบน้ำจากด้านในออกด้านนอกตลอดเวลา พร้อมวางแนวบิ๊กแบ๊กขนาดใหญ่จำนวนมากทำเป็นพนังกันน้ำเป็นใช้ที่สองในซองส่งน้ำ เพื่อป้องกันการคันดินที่วางแนวกั้นชั้นนอกพังและปริมาณน้ำทะเลไหลทะลักเข้าชั้นใน ซึ่งมีการเว้นช่องวางเอาไว้เป็นบ่อกักน้ำยาวประมาณ 100 เมตรพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากชั้นให้น้ำมากักไว้ในบ่อที่กักไว้ด้านหน้าเพื่อรักษาระดับน้ำด้านนอกและด้านในให้เท่ากันเพื่อลดแรงดันของน้ำระหว่างด้านนอกและด้านในให้เท่ากันป้องกันคันดินพัง
สถานการณ์ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ปริมาณน้ำทะเลได้หนุนขึ้นสูงสุด 3.8 เมตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำทะเลที่หนุนขึ้นสูงสุดก็ปรากฏว่าสามารถรักษาพนังกั้นน้ำทะเลหนุนเอาไว้ได้สำเร็จ โดยการระดมกระสอบบรรจุทรายเอาไว้ภายในและนำมาวางสลับกับดินเหนียวที่นำมากั้นเป็นคัน เพื่อเพิ่มน้ำหนักและเสริมการยึดตัวของดินเหนียวสร้างแรงประทะกันมวลน้ำทะเลจากภายนอก และปริมาณน้ำทะเลที่ขึ้นหนุนสูงสุดและเริ่มลดลงในเวลา 22.00 น. คันดินที่เสริมขึ้นมาสามารถลองรับแรงดันของกระแสน้ำเอาไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่ด้านนอกและด้านในมีระดับน้ำต่างกันกว่า 150 เซนติเมตร ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้านและคนงานรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่เข้ามาช่วยกันดำเนินการในครั้งนี้
