พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 แถลงข่าวผลการกวาดล้างจับกุมการแข่งรถในทางในพื้นที่สมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 70 คน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่แข่งขันในทางสาธารณะ และกระทำผิดฝาฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22 และ 46 / 2558 ได้จำนวน 261 คัน และตรวจค้นร้านแต่งรถจักรยานยนต์และดัดแปลงสภาพรถจำนวน 46 ร้าน ตรวจยึดท่อไอเสียที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้มาตรฐาน มอก. ได้จำนวน 110 ชิ้น และจับกุมผู้ต้องหาที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทาง โพสต์ข้อความชักชวนผ่านเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่อ ดินแดนซิ่งบางพลี ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 คน
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการ ทุกสถานีในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงผลการกวดขันจับกุมแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ในระหว่างวันที่ 10 – 13 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 70 คน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่แข่งขันในทางสาธารณะ และกระทำผิดฝาฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22 และ 46 / 2558 ได้จำนวน 261 คัน และตรวจค้นร้านแต่งรถจักรยานยนต์และดัดแปลงสภาพรถจำนวน 46 ร้าน ตรวจยึดท่อไอเสียที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้มาตรฐาน มอก. ได้จำนวน 110 ชิ้น และจับกุมผู้ต้องหาที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทาง โพสต์ข้อความชักชวนผ่านเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่อ ดินแดนซิ่งบางพลี ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ประกอบด้วยนายอภิชาต วงษ์บุญมี อายุ 24 ปี และนายพิเชษฐ จินดานภาลัย อายุ 18 ปี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่าตนทั้งสองเป็นคนโพสต์เชิญชวนให้สมาชิกในเพจออกมาแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ จริงด้วยความคึกคะนอง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาทั้งสองในข้อหา จัดส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ได้กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง หรือขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น และการร่วมตัวมั่วสุมในลักษณะหรือมีพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งขันรถในทาง อันเป็นการก่อความเดือดร้อนระคราญและเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการณ์ให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และคงวามผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง และถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สุด ตำรวจภูธรภาค 1 จึงได้เร่งดำเนินการในเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกเขตในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 เร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งได้รับการร้องเรียนอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับการแข่งขันรถในทางสาธารณะ จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการการแก้ไข โดยเปิดโอกาสให้ประชาขนที่พบเห็นการร่วมตัวมั่วสุมที่มีพฤติการณ์ที่น่าจะนำไปสู่การแข่งขันรถในทาง สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ไลน์ ไล่ล่า ตาสับปะรด ที่แต่ละโรงพักได้จัดทำขึ้นเพื่อเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนแจ้งเบาะแสการกระทำผิดผ่านทางไลน์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และนำไปสู่การจับกุม จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้ประชนร่วมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะ ว่าผู้ที่ฝ่าฝืนและกระทำผิดออกมาร่วมตัวแข่งรถในทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามและใช้เทคโนโลยีที่สามารถเก็บภาพผู้ที่ออกมารวมตัวกันแข่งรถในทาง เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่อาจจะถูกดำเนินคดีด้วย
