เจ้าหน้ามูลนิธิ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์กระบะ จึงเข้าให้การช่วยเหลือ ในระหว่างที่กำลังปฐมพยาบาลอยู่ได้มีรถบรรทุกหกล้อวิ่งมาชนประตู้ท้ายรถของมูลนิธิทำให้เจ้าหน้าที่อาสาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 14 มีนาคม 2561 ร.ต.อ.นครินทร์ จำปานิล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์กระบะ บริเวณสะพานข้ามคลองบางปิ้ง ถนนเทพารักษ์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกัน เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25 ปี ในตัวไม่พบเอกสาร นอนหมดสติอยู่กลางถนน มีอาการมึนเมาสุรา มีแผลถลอกตามร่างกาย ห่างออกไปไม่ไกลพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฬวค 540 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่บนถนน ในสภาพด้านหน้าพังยับ ห่างออกไปไม่ไกลพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน 1 ฒร 2143 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ในสภาพ ไฟท้ายแตก เปลือกรถด้านข้างซ้ายบุบ
ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิกำลังให้การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ โดยจอดรถเปิดสัญญาณไฟไซเลน เพื่อแสดงให้ชาวบ้านรู้ว่าตรงจุดดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่ระหว่างที่อาสามูลนิธิกำลังให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่นั้น ได้มีรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 71-7397 สมุทรปราการ ของบริษัท เช้งเก้อร์ โลจิสติกส์ (ไทย) จำกัด วิ่งเข้ามาชนฝาปิดท้ายรถตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮต 7492 กรุงเทพมหานคร ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ทำให้ได้ฝาท้ายได้รับความเสียหายไม่สามารถปิดได้ และนางสาวหนึ่งฤทัย เปลี่ยนพงศ์พันธุ์ อาสาสมัครปอเต็กตึ๊ง ได้รับบาดเจ็บปวดหัว ข้อศอก และช่วงบริเวณสะโพก
จากการสอบถามนางสาวหนึ่งฤทัย ได้เล่าว่า ในระหว่างที่กำลังปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ ตนเดินไปที่รถเพื่อจะไปหยิบสายลัด เพื่อนำมาลัดตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไว้กับบอร์ด รถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งเข้ามาชนที่ประตูท้ายรถตู้ที่เปิดอยู่ และฝาท้ายได้ปิดลงมากระแทกที่หัว ที่ข้อศอก และที่สะโพกตน แต่ด้วยความที่ตนเป็นอาสาจึงให้การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บต่อ ก่อนจะเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเอง
ด้านนายวุฒิพงศ์ กระแสสิน อายุ 50 ปี คนขับรถบรรทุก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถไปส่งของที่ย่านสำโรงมา กำลังจะกลับรับงานที่บริษัท ย่านกิ่งแก้ว พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเห็นรถมูลนิธิจอดเต็ม ตนขับมุดมาทางเลนกลางคิดว่าพ้น เลยไปโดนฝาประตู้ท้ายรถมูลนิธิที่เปิดไว้ ตนจึงรีบจอดรถลงมาดู
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ในระหว่างที่รถยนต์กระบะ ขับรถถึงทีเกิดเหตุซึ่งมีตำรวจตั้งด่านอยู่ด้านหน้า จึงจอดและพยายามขับรถถอยหลัง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ได้ขี่รถจักรยานยนต์มา จึงได้ชนท้ายเข้าอย่างแรง จนบาดเจ็บ ขณะเดียวกันในระหว่างที่มูลนิธิกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่ ได้มีรถบรรทุก วิ่งมาทางเลนกลาง แต่ไม่พ้นและไปเฉี่ยวชนกับฝาท้ายของรถมูลนิธิเข้าจนเกิดการบิดตัวปิดไม่ได้ดังกล่าว
