รวบ เจ้าหน้าที่รปภ. สนามบินสุวรรณภูมิ แสบทำงานยังไม่ถึงเดือน ฉกเงินนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐ ขณะผ่านเครื่องเอกซเรย์ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ก่อนเห็นภาพวงจรปิดถึงกับหน้าถอดสีจำนนต่อหลังฐาน
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 เมษายน 2651 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการได้เข้าคุมตัว นาย ธนัช มณฑลรัตน์ อายุ 25 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชน ที่ประจำเครื่องเอกซเรย์สัมภาระผู้โดยสารประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาทำการสอบปากคำ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอเมริกา วัย 89 ปี ที่ได้เข้าแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดลาดตะเวนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าเงินสดสกุลไทย ชนิดราคา 1,000 บาทรวมทั้งสิ้น 6,000 บาท ได้หายไประหว่างที่กระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องเอกซเรย์ เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบกับพนักงานบริเวณจุดตรวจสัมภาระทันที่และพบกับนาย ธนัช ผู้ต้องหา ยืนปฎิบัติหน้าที่อยู่เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นในกระเป๋าและพบเงินสด 6,000 บาท ซุกซ่อนในกระเป๋าเสื้อสูททำงาน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ผู้ต้องหารายนี้ กลับให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกภาพพฤติกรรมของนาย ธนัช ที่กำลังลงมือก่อเหตุให้ดู ทำเอานายธนัช ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อจำนนต่อหลักฐาน ก่อนที่จะเอ่ยปากรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง
นายธนัช ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการเงินเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เงินไม่พอ เนื่องจากเพิ่งเข้ามาทำงานได้ยังไม่ถึง 1 เดือน และยังได้ค่าแรงเป็นรายวัน วันละประมาณ 580 บาท ตนยอมรับว่าร่างกายไม่ไหวที่จะทำหน้าที่นี้ต่อ จึงตัดสินใจที่จะหนีออกจากงานเพื่อกลับบ้านเกิดไปหางานทำแต่ไม่มีเงินจึงลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เรียกผู้บริหารของทางบริษัท รปภ. รายนี้มารับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วพร้อมกับเตรียมเรียกประชุมผู้บริหารอีกครั้งเพื่อ พิจารณาการรับพนักงานที่มีคุณภาพมากกว่านี้เข้ามาทำงาน เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าเป็นเพียงตัวบุคคลเท่านั้น ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานที่วางไว้นั้นถือว่ามีมาตรฐานสากลอยู่แล้ว หลังจากนี้บริษัทจะต้องพิจารณาพนักงานที่จะทำหน้าที่ในจุดดังกล่าวในมีคุณภาพและซื่อสัตย์ในหน้าที่ มาทำงานบริเวณดังกล่าวรวมถึงจุดอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในลักษณะนี้ขึ้นอีก ในส่วนทรัพย์สินของผู้เสียหาย เบื้องต้นได้ทราบว่าผู้เสียหายได้เดินทางขึ้นเครื่องบินไปแล้ว จึงส่งมอบทรัพย์สินคืนไม่ทัน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมส่งทรัพย์สินทั้งหมดคืนผู้เสียหายโดยเร็วพร้อมทั้งหนังสือชีแจงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศต่อไป
ส่วนตัวผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: