ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสถานที่ก่อสร้างเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต ฐานบุกรุก และได้ส่งเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเข้าปิดและเฝ้าไม่ให้รถเข้า-ออกเขตก่อสร้าง ตรงจุดที่เป็นเขตของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากกรณีเมื่อช่วงสายของวันที่ 21 สิงหาคม 2562 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องการก่อสร้างศูนย์การค้า เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ซึ่งอยู่ติดกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะมีการเปิดบริการ 31 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ฐานก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ของราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของกรมท่าอากาศยานไทย และเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ใสความดุแล ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในพื้นที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- DSI ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้ท่านจุฬาราชมนตรี เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2562 ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภับของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้นำเต็นท์มากางปิดทางเข้าออกของ โครงการศูนย์การค้า เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดยได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางพลี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 20 นาย เข้าประจำจุดที่ปิดกั้นทางเข้าออกของโครงการก่อสร้างของศูนย์การค้าดังกล่าว โดยไม่ยินยอมให้รถเข้าออกในบริเวณดังกล่าว พร้อมตั้งป้ายปิดประกาศ โดยมีข้อความว่า พื้นที่ในความครอบครองของ ทอท.ห้ามผู้ใดบุกรุก มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน ) พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์แสงสว่างและกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกภาพตามมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมชี้แจงแนวทางการปฎิบัติ โดยสั่งห้ามรถทุกชนิดผ่านเข้าออกบริเวณประตูทางเข้าออกของศูนย์การค้าทั้งสองด้าน หลังจากมีการสั่งปิดไม่อนุญาตให้ผ่านเข้าออกพื้นที่ของทาง ทอท. ดูแลนั้น ทำให้มีรถจำนวนมากจอดไหล่ทางทั้งสองข้างทางเป็นระยะทางยาวกล่าว 1 กิโลเมตรซึ่งเป็นการกีดขวางการจราจร ทำให้รถที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ได้รับความสะดวก
ด้านดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทอท.ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างทางเข้าออกของศูนย์การค้าดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ติดกับถนนทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มุ่งหน้าออกถนนบางนาตราด ซึ่งอยู่ในความรับผิดของบริษัทท่าอากาศยานไทย ซึ่งทางโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลวิลเลจ ได้ทำถนนเชื่อมถนนทางเข้าออกรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ ที่ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย ได้มอบพื้นที่ดังกล่าวให้ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ได้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตการบิน ที่กรมธนารักษ์ให้อำนาจบริษัทท่าอากาศยานไทยหรือ ทอท. เป็นผู้บริหารจัดการพื้นทีดังกล่าว และโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าดังกล่าวจะทำการวางท่อประปา ซึ่งทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย ก็อนุญาตให้ไม่ได้
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวกรณี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้ดำเนินการตรวจสอบพบว่าพื้นที่บางส่วนของการก่อสร้างโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มีการรุกล้ำเข้ามาในที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ และเป็นเขตพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ AOT ในฐานะหน่วยงานผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างได้ และขอให้ CPN ได้ดำเนินการถอยร่นออกจากบริเวณพื้นที่แล้วนั้น อย่างไรก็ดี กรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ปรากฏว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งได้มาโดยกรมท่าอากาศยาน (กรมการบินพาณิชย์เดิม) จัดซื้อจากราษฎรด้วยเงินงบประมาณในช่วงปี 2511-2513 รวมเนื้อที่ประมาณ 184 – 13 – 26 ไร่ และอยู่ในความครอบครองของกรมท่าอากาศยาน ปัจจุบันใช้ประโยชน์เป็นทางเข้า-ออกของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งด้านทิศใต้เชื่อมต่อกับทางพิเศษบูรพาวิถี กรมท่าอากาศยาน ในฐานะผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ จึงมีหน้าที่ต้องดูแลและระวังรักษาแนวเขตที่ราชพัสดุ โดยจะต้องแจ้งให้เอกชนดำเนินการรื้อถอน ขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำออกจากที่ราชพัสดุตามกฎหมาย ดังนั้น กรณีที่ AOT ในฐานะผู้ดูแลแทนกรมท่าอากาศยาน ได้ดำเนินการให้เอกชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ราชพัสดุบริเวณดังกล่าว จึงเป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คืบหน้า สุวรรณภูมิแจ้งความบุกรุกโดยการวางท่อประปาในทางเท้า แต่ยังไม่มีการระบุคู่กรณี
ซีพีเอ็น ยืนยัน เซ็นทรัล วิลเลจ ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายไม่รุกล้ำที่ใคร ยันพร้อมให้บริการ
สหภาพแรงงาน ทอท.ออกโรง ยันให้เซ็นทรัล วิลเลจ ชี้แจ้งหลายประเด็นให้ชัดเจน
ศาลปกครอง สั่ง ทอท. เปิดทางเข้าออก เซ็นทรัล วิลเลจ 31 ส.ค. เปิดห้างได้ตามปกติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: