ผู้กำกับ ปปป.นำกำลังเข้าค้นบ้านอดีตนายกเทศบาลตำบลบางเมืองตรวจเอกสารการฮั้วประมูลรถดูดโคลนให้รัฐ เป็นลักษณะบริษัทไม่ผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนด และรถไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม
เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 11 เมษายน 2561 พ.ต.อ.ประพันธ์ อยู่เจริญดี ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปช. และ ปปง. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 61/62 หมู่ 3 ซอยอุดมเดช 7 ขวา ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านของนายประทีป ยังยื่น อดีต นายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง ที่ทางคณะเครือข่ายองค์กรต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐดำเนินการตรวจสอบการฮั้วประมูลในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้าตรวจสอบล็อต 2 เรื่องขายรถดูดโคลนให้รัฐ เป็นลักษณะบริษัทไม่ผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนด และรถไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งในล็อตนี้ มี อปท. ที่ถูกตรวจสอบรวม 10 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรสาคร พิษณุโลก ระยอง ศรีสะเกษ เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี นนทบุรีและสมุทรปราการ
โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดียว 2 ชั้นมีรั้วรอบขอบชิด โดยระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในบันทึกภาพระหว่างตรวจสอบเอกสารและรับฟังหารสอบสวนแต่อย่างใน ภายในบ้านได้พบนายประทีป ยั่งยืน อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางเมือง นั่งอยู่ด้านในห้องกระจกมีสีหน้าเรียบเฉย โดยมีเพียงตัวแทน ออกมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น โดยใช้เวลาในการตรวจสอบและบันทึกการสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง กำลังทั้งหมดจึงได้รวบรวมเอกสารและออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว
โดย พ.ต.อ.ประพันธ์ อยู่เจริญดี ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในฐานะหัวหน้าชุด ได้กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้าตรวจสอบตามคำสั่งการณ์ของ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.บก.ปปป. ที่มีคำสั่งให้ตรวจสอบการฮั้วประมูลใน อปท. เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถดูดโคลนและรถขนขยะ ซึ่งในส่วนของนายประทีป ยั่งยืน นั้นสมัยดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง ได้มีโครงก่อสร้างถนนใหม่และมีการจัดซื้อรถดูดโคลน ซึ่งจากข้อมูลที่ตำรวจมีนั้นพบว่าทุจริตและการฮั้วประมูลในการจัดซื้อประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งวันนี้เป็นการเข้าตรวจสอบหาหลักฐานทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวน แต่จากการตรวจสอบเอกสารภายในบ้าน ยังไม่พบว่ามีการทุจริต แต่อย่างไรก็ตามทาง บก.ปปป. มั่นใจในหลักฐานที่มี หลังจากนี้จะดำเนินการสรุปสำนวนก่อนส่งดำเนินคดีตามขั้นตอน เนื่องจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการได้มอบหมายให้ ท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตัวแทนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ บก.ปปป.ในฐานะผู้เสียหาย ก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว
