รอง ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมจุดบริการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ที่จุดบริการประชาชนสี่แยกศรีเทพาเนื่องจากนโยบายเมาไม่ขับ เป็นนโยบายที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้สูงถึง 40% จึงสั่งการณ์ให้ตำรวจทั่วประเทศ ใช้นโยบายเมาไม่ขับและบังคับใช้กฎหมายใหม่อย่างเข้มข้นในช่วง 7 วันอันตรายนี้
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 เมษายน 2561 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ที่จุดบริการประชาชนสี่แยกศรีเทพา ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยมี พล.ต.ต.ธรรมนูญไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รส.ส.พัน 2 พล.ร.2 รอ. ข้าราชการตำรวจ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ฝ่ายปกครองและจิตอาสา รวม 60 นาย ให้การต้อนรับ โดย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ได้ใช้เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ทำการตรวจวัดประชาชนที่ถูกจับกุมในคดีเมาแล้วขับและทำความเข้าใจกับผู้ที่ถูกดำเนินคดีหลังมีการเปลี่ยนแปลงกฏหมายใหม่
ข่าวน่าสนใจ:
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- นครพนม เปิดคลิป วัยรุ่น เหิมหนัก ยกพวกใช้มีดไล่ฟันคู่อริ พร้อมทุบทำลายทรัพย์สินอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เนื่องจากนโยบายเมาไม่ขับ เป็นนโยบายที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้สูงถึง 40% จึงสั่งการณ์ให้ตำรวจทั่วประเทศ ใช้นโยบายเมาไม่ขับและบังคับใช้กฎหมายใหม่อย่างเข้มข้นในช่วง 7 วันอันตรายนี้ ขณะเดียวกันทางด้านกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการตั้งด่านโดยเน้นตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดบนถนนสายรอง และ ซอย หรือหน้าชุมชน เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เน้นไปที่ถนนสายหลัก ร่วมกับกำลังจากทหาร ฝ่ายปกครอง และจิตอาสา เพื่อลดการเกิดอุบัติให้ได้มากที่สุด ซึ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ในส่วนของสมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดในข้อหาเมาแล้วขับแล้วจำนวน 158 ราย โดยทุกรายมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฏหมายกำหนด ซึ่งกฏหมายใหม่กำหนดให้มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และสำหรับผู้โดยสารที่นั่งดื่มสุราบนหลังกระบะท้ายรถหรือในรถ ระหว่างเดินทาง ก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน และที่สำคัญมาตรการใหม่จะถูกติดวิทยุติดตามตัวหรือเครื่องติดตามตัวหรือที่เรียกกันว่ากำไรข้อเท้า เพื่อในระหว่างที่ถูกคุมประพฤติผู้ที่ถูกจับกุมในข้อหาเมาแล้วขับก็จะติดกำไรข้อเท้าทั้งหมด ถ้าไม่อยากสวมใส่กำไรข้อเท้าคุมประพฤติต้องถ่องเอาไว้ในใจว่า ถ้าเมาต้องไม่ขับ ถ้าขับต้องไม่ดื่ม และที่สำคัญประวัติที่อยู่ในกองทะเบียนอาชญากรนั้นจะเป็นเหตุให้เพิกถอยใบอนุญาตขับขี่หรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: