จากกรณีเรือประมง ป.ธนูทอง ล่าสุดพบศพลูกเรือ ที่จมหายไปกับเรือแล้ว หลังกู้ซากเรือลอยขึ้นมาได้ และลากเรือกลับไปมหาชัย
จากกรณีเหตุเรือประมง ป.ธนูทอง พลิกคว่ำหลังถูกแรงคลื่นจากเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่วิ่งแซงในรองน้ำเดียวกันซัดจนพลิกคว่ำจมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณร่องเดินเรือทุนที่ 18 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุลูกเรือประมง ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 23 ต้องกระโดดหนีตายลอยคออยู่ในแม่น้ำนานนับชั่วโมงก่อนมีเรือประมงชาวบ้านที่ผ่านมาเข้าไปช่วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในเก๋งเรือ 1 ราย ทราบชื่อ นายสิงห์ เกื้อกิจ อายุ 50 ปี และมีลูกเรือได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าให้การช่วยเหลือและนำขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 10 ก.ย.62 สถานการณ์ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนายจุฑาวัฒน์ มาบุญธรรม เจ้าของเรือ ได้ระดมคนงานให้นำเรือประมงออกไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อทำการกู้เรือ ป.ธนูทอง ขึ้นจากน้ำโดยล่าสุดเรือประมงลำดังกล่าวสามรถยกขึ้นมาลอยลำได้แล้ว อยู่ระหว่างใช้เครื่องสูบน้ำออกจากตัวเรือตลอดทั้งคืน กระทั้งเรือสามารถลอยลำอยู่บนผิวน้ำได้ และพบศพนายสิงห์ เกื้อกูล ติดอยู่ภายในเก๋งเรือ ก่อนที่จะส่งมอบศพให้กับเจ้าหน้าที่นำมาขึ้นฝั่งบริเวณท่าเรือองค์การสะพานปลา ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อให้มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการส่งชันสูตรเบื้องต้นที่ รพ.สมุทรปราการ
นายจุฑาวัฒน์ มาบุญธรรม เจ้าของเรือกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวค่าเสียหายของเรือรวมทั้งเครื่องมือในการหาปลาคาดว่าประมาณ 10 ล้านบาททั้งนี้หลังจากกู้เรื่อเสร็จจะได้ให้เรือประมงทำการลากมาไว้บริเวณท่า เรือสมุทรสาครเพื่อซ่อมบำรุงส่วนแนวทางการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตนั้นตนยืนยันว่าจะช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่เนื่องจากผู้ตายได้ทำงานอยู่กับตนมานานกว่า10ปีแล้วลูกน้องก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวทั้งนี้หลังจากเสร็จขั้นตอนแล้วจะได้รีบนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นบ้านเกิดต่อไป
ทางด้าน นายวีระ ชาวไร่ อายุ 61 ปี ไต้ก๋งเรือ ป.ธนูทอง ซึ่งรอดชีวิต จากเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้นำเรือออจากท่าองค์การสะพานปลา ประมาณ 15.30 น.โดยแลนออกไปได้ประมาณ 1ชม.กระทั้งถึงจุดเกิดเหตุซึ่งมีเรือขนบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่วิ่งตามหลังมาระหว่างนั้นเรือลำดังกล่าวได้เปิดวูดเพื่อส่งสัญญาณเพื่อเตือนขอแซงแต่หลังจากเบียดแซงขึ้นหน้าไปด้วยขนาดของเรือบรรทุกซึ่งมีขนาดใหญ่ส่งผลทำให้คลื่นน้ำที่ตามหลังมานั้นม้วนโหมซัดเข้ากราบเรือธนูทองซึ่งมีขนาดเล็กกว่าจนพลิกคว่ำดังกล่า ก่อนที่ลูกเรือจะพากันกระโดดหนีตายออกมาจากเรือส่วนผู้เสียชีวิตนั้นทราบว่าขณะเกิดเหตุได้นอนพักผ่อนอยู่ในเก๋งเรือจึงไม่สามารถออกมาได้ทันจึงทำให้ติดอยู่ภายในขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุโชคดีลูกน้องสามารถคว้าโทรศัพท์ได้หนึ่งเครื่องจึงทำให้โทรแจ้งศูนย์ที่มหาชัยเพื่อขอความช่วยเหลือได้
ด้านนายอำนาจ สอนหมวก ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เปิดเผยว่าโดยปกติการเดินเรือก็มีระเบียบของการเดือนเรืออยู่แล้วแต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแบบนี้ทางเจ้าท่าก็จะมีการกระชับให้ผู้เดินเรือรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัดส่วนเรื่องของคดีที่ทางลูกเรืออ้างว่าอุบัติเหตุเกิดจากคลื่นจากเรือขนาดใหญ่ที่แซงด้วยความเร็วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ฯเองต้องขอเวลาสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเรือลำที่เกิดอุบัติเหตุ หลังจากกู้ขึ้นมาแล้วและซ่อมเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ฯจะเข้าไปตรวจสภาพหากมีสภาพสมบูรณ์ตามระเบียบ จึงจะอนุญาตให้ใช้งานได้ตามปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรือประมงปากน้ำถูกคลื่นเรือบรรทุกสินค้าซัดจมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ลูกเรือเสียชีวิตเจ็บหลายราย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: