ขนส่งสั่งปรับโชว์แท็กซี่พูดจาหยาบคายใส่ชาวต่างชาติ หลังชาวต่างชาติโพสต์คลิประบายความในใจ โชเฟอร์แท็กซี่ให้การยอมรับว่า ในคลิปดังกล่าว บางส่วนเป็นความจริง แต่มีบางส่วนที่มีการต่อเติม แต่ยอมรับว่ามีการพูดจาไม่สุภาพกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจริง
เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันนี้ที่ 18 เมษายน 2561 ที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการ 1 ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ นาย กิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการ 1 ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการ กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ได้ร่วมกันนำตัวนายทองคำ สระแก้ว อายุ 50 ปี คนขับแท็กซี่คันที่อยู่ในคลิป มาสอบสวน หลังถูก ชาวต่างชาติ โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่อว่า ลักษณะพูดจาดูหมิ่น โดยชาวต่างชาติรายนี้อ้างว่า นายทองคำ พูดว่า ฝรั่งขี้นก ขี้เหนียว ฝรั่งงี่เง่า อย่ามาเจอกันอีกเลย ลงไปเลย ขณะโดยสารอยู่รถ และเกิดปัญหาถกเถียงเรื่องค่าโดยสาร จนมียอดผู้เข้าชมและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
จากคลิปภาพที่ปรากฏ ชาวต่างชาติอ้างว่า เรียกแท็กซี่คันนี้จาก สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้ไปส่งในย่านเมืองทองธานี โดยในคลิปแท็กซี่ขอให้จ่ายค่าโดยสาร แบบเหมาเที่ยว 500 บาท เขาจึงปฏิเสธ คนขับจึงยอมใช้มิเตอร์ วัดระยะทาง เมื่อขึ้นทางด่วน แท็กซี่ก็ขอเงิน 300 บาท โดยบอกว่า เป็นค่าทางด่วน แต่ชาวต่างชาติรู้ว่า ไม่น่าจะใช่จำนวนที่ถูกต้อง จึงมีการถกเถียงกัน แต่ก็จ่ายเงินให้ไป 200 บาท จากนั้น เมื่อถึงที่หมาย มิเตอร์แสดงค่าโดยสาร 375 บาท บวกค่าธรรมเนียมแท็กซี่ ที่เข้ามารับผู้โดยสารใน สนามบินสุวรรณภูมิ อีก 50 บาท รวมเป็น 425 บาท จึงจ่ายไป 500 บาท ต้องทอนเงินคืน 75 บาท แต่คนขับบอกว่า พอดีนะ ลักษณะไม่ต้องทอน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงทวงถาม กลับถูกคนขับแท็กซี่ต่อว่า ด้วยคำพูดไม่สุภาพว่า ฝรั่งขี้นก ขี้เหนียว ฝรั่งงี่เง่า อย่ามาเจอกันอีกเลย ลงไปเลย หลังนายทองคำดูคลิปภาพที่คู่กรณีโพสต์ ก็ยอมรับว่า ในคลิปดังกล่าว บางส่วนเป็นความจริง แต่มีบางส่วนที่มีการต่อเติม แต่ยอมรับว่ามีการพูดจาไม่สุภาพกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจริง
เบื้องต้นนายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการ กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก จึงสั่งเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดเป็นเงิน 1,000 บาท ในข้อหา แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ขณะที่ ความผิดส่วนอื่น ตำรวจอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบก็จะดำเนินคดีเพิ่ม ตามการกระทำผิด
