บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้จัดพิธีบวงสรวงสักการะต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ภายในป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ ยันใช้เงินส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเงินที่ได้รับบริจาคน้ำท่วม
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 กันยายน 2562 มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้จัดพิธีบวงสรวงสักการะต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ภายในป้อมพระจุลจอมเกล้า อ.พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สมเด็จพระปิยมหาราช ครบรอบ 166 ปี ซึ่ง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พระเอกนักบุญเพื่อมวลชน ได้จัดพิธีบวงสรวงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากว่า 28 ปี โดยในปีนี้ได้ย้ายมาจัดพิธีบวงสรวงสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ภายในป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ โดยในพิธีจะมีการถวายเค้กยักษ์ขนาด 569 ปอนด์ ต่อพระองค์ท่าน โดยบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นผู้ริเริ่มจัดงานนี้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวน่าสนใจ:
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
- ชายวัย 62 ยืมมอไซค์เพื่อนจะไปรับแฟนมากินข้าวด้วยกัน เกิดเฉี่ยวชนกับรถพ่วงถูกล้อทับดับคาที่
- หนุ่มวัย 30 ขับกระบะหาห้องพัก เฉี่ยวชนกับรถมอไซค์ จึงจอดลงไปเคลียร์ ถูกกระบะตู้เย็นชนดับคาที่
- "มรสุม" ลูกแรกถึงนราฯแล้ว 20 - 26 พ.ย.67 !!!
โดยในพิธีได้มีจัดวางเครื่องสักการะและบายศรีในรูปแบบต่างๆ อย่างครบเครื่อง เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงประกาศเลิกทาสและพัฒนาด้านต่างๆ ของประเทศไทย รวมทั้งการนำเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาและทำให้ประเทศไทยได้เทียบเท่ากับประเทศอื่นๆ ได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่สักการะกันเพียงแค่วันที่ 23 ตุลาคมเท่านั้น แต่อยากจะให้เห็นถึงความสำคัญในวันที่ 20 กันยายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่านด้วย โดยมีดารานักแสดงหลายคนร่วมทั้งประชาชนคนไทยต่างพากันเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมร่วมพิธีตัดเค้ก นำมาแจกจ่ายให้ผู้ที่มาร่วมงานเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้กล่าวว่า การจัดพิธีบวงสรวงสักการะต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เราจัดมาตั้งแต่ปี 34 จนมาถึงวันนี้ก็ 27 ปีแล้ว ซึ่งเราก็ได้จัดอยู่เป็นประจำอยู่แล้วเพราะว่า เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทำคุณงามความดีไว้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยไว้อย่างมากมายมหาสาน และในปีนี้พระองค์ท่านก็ครบรอบ 166 ปี วันนี้ก็ถือเป็นวันที่ดีมาก ๆ คือวันที่ 20 กันยายน ของทุกปี เพราะเราจะรำลึกถึงวันที่พระองค์ท่านทรงสวรรคต คือวันที่ 23 ตุลาคม น้อยคนมากที่จะรู้จักวันที่พระองค์ท่านทรงพระราชสมภพคือวันนี้ที่ 20 กันยายน
ส่วนตามที่มีกระแสข่าวมาว่าการจัดงานในครั้งนี้เราอาจจะไปเกี่ยวข้องกับเงินที่ร่วมบริจาคช่วยน้ำท่วมมาหรือไม่นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่มีและไม่ใช้เลย สิ่งนี้ตนจัดมา 20 กว่าปี ก็จัดด้วยเงินส่วนตัวด้วยกำลังของมูลนิธิร่วมกตัญญู และก็เงินของพรรคพวกเพื่อนฝูงที่มาร่วมมาช่วยกันหลาย ๆ คน หลาย ๆ หน่วยงานก็มาช่วยกันเราก็จัดกันได้ เราไม่จำเป็นเงินของคนที่เขาช่วยน้ำท่วมมายุ่งเกี่ยว เราแยกกันคนละส่วน ไม่เกี่ยวข้องเลย แม้แต่ค่าใช้จ่ายที่ทีมงานเราเดินทางไปช่วยที่จังหวัดอุบลราชธานี ทุกสิ่งทุกอย่างเราก็ไม่เคยเอาเงินส่วนของน้ำท่วมมาเป็นค่าใช้จ่ายอะไรตรงนี้ เราใช้เงินของตัวเองเราใช้เงินของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นเงินส่วนกลางที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องนำมาช่วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปเอาตรงนั้นเลย คือเงินส่วนนั้นเราจัดช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัยอย่างเดียวเลย จะไม่มีอะไรมาปะปน หรือมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว หรือนำมาใช้ในองค์กรของเราแต่อย่างไร ตนขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอน
ส่วนในเรื่องที่มีผู้ใหญ่ทาบทามมาว่าให้โอนเงินที่รับบริจาคมา โอนไปสมทบกับรัฐบาลนั้น ตรงนี้ตนขอยืนยันว่าไม่มีฝ่ายรัฐบาลหรือผู้ใหญ่คนไหนติดต่อมาแต่อย่างไร ตนยืนยันได้ และสาบานได้ว่าไม่มีใครติดต่อมาเลย ถึงแม้ว่าจะมีด้วยความเคารพ ผมเองก็คิดว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินของพี่น้องประชาชนที่บริสุทธิ์ใจที่มอบมาให้ตนเอาไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่จังหวัดอุบลราชธานี และภาคอีสาน ที่ถูกน้ำท่วมบริเวณนั้น เพราะฉะนั้นถ้าผมเอาเงินก้อนนั้น ไปให้ตามวัตถุประสงค์ของเขา ผมคนเดียวครับที่จะโดน ต่อไปพี่น้องประชานก็ไม่มีความเชื่อถือตนอีก เพราะฉะนั้นตนจะทำให้เงินก้อนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจะดูแลอย่างโปร่งใสที่สุด ตนขอรับรองและเชื่อใจตน และขอยืนยันว่าเงินที่ได้รับบริจาคมาตนจะส่งให้ถึงมือผู้ที่เดือดร้อนทุกบาททุกสตางค์ ไม่ให้ตกหล่นแม้แต่ครอบครัวเดียว และตนยังมาคิดว่า อนาคตข้างหน้าถ้ามีเงินเหลือสักก้อนหนึ่ง หลังจากแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนไปหมดแล้ว เหลือสัก 20-30 ล้าน ตนกะว่าจะสร้างเป็นอนุสรณ์ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ในการที่ร่วมมือช่วยแรงใจมามอบให้กับพี่น้อง อาจจะสร้างเป็นโรงพยาบาลสักหลังหนึ่งสร้างเป็นโรงเรียนสักหลังหนึ่งหรือจะเป็นวัด ก็แล้วแต่ว่าเราจะลงมติกันว่าเราจะทำอะไรไว้ เพราะว่าตนคงไม่เงินที่เหลือทั้งหมดไปมอบให้กับทางโน้น มอบให้กับทางนี้ เราทำอย่างนี้ดีกว่า ทุกคนจะได้ใช้เป็นประโยชน์ส่วนรวม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: