คืบหน้า ไฟไหม้บริษัท มิคเซล จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตฉนวนโฟมกันความร้อนย่านสำโรงใต้ พบลักลอบเปิดไลน์ผลิตผิดกฎหมาย ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้
จากกรณีที่เกิดเหตุเพลองของบริษัท มิคเซล จำกัด เลขที่ 45 / 5 หมู่ 10 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งประกอบกิจการผลิตฉนวนโฟมความกันความร้อน ที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อกลางดึกของคืนนี้ จนวอดหมดทั้งบริษัทรวมทั้งรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานรับจอดรถของชาวบ้านรถได้รับความเสียหายหว่า 20 คัน โดยไฟได้ลุกไหม้บริษัทดังกล่าวจนวอดทั้งโรงงานทั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์สินค้าที่ผลิตเสร็จรอส่งลูกค้าถูกไฟเผาผลาญจนวอด
ข่าวน่าสนใจ:
ความคืบหน้าเมื่อช่วง 10.30 น.ของวันนี้ที่ 24 เมษายน 2561 นายวรณัฎฐ์ หนูรอต นายอำเภอพระประแดง ได้ลงพื้นที่ พร้อมสั่งการระดมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าตรวจสอบและสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสำรวจด้านสุขภาพและจิตใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ทางเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายได้ตั้งกองอำนวยการและศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับชาวบ้านที่บ้านพักถูกไฟไหม้ ซึ่งพบว่ามีบ้านเรือนของประชาชนจำนวน 9 หลังคาเรือน ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ประชาชนเดือดร้อนกว่า 30 ชีวิต ขณะที่ ทางเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายได้ออกประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตไฟไหม้หรืออันตรายห้ามเข้าใกล้ที่เกิดเหตุมีรัศมีห่างจากจุดเกิดเหตุโดยรอบในระยะ 3 เมตร
ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและพักอาศัยใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ยังคงอยู่ในอาการผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมออกมาระบุว่ารู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกลางชุมชนในครั้งนี้ นาย สุรพงษ์ ทองประเสริฐ กรรมการชุมชนในที่เกิดเหตุได้ออกมาตำหนิบริษัทดังกล่าวว่า ทางบริษัททำผิดประชาคมและสัญญากับทางชุมชนว่าจะเปิดเป็นโกดังเก็บสินค้าจากโรงงานแม่เท่านั้นจะไม่มีการตั้งเครื่องผลิตแต่อย่างใด ที่ผ่านมาคณะกรรมชุมชนหรือตัวแทนชาวบ้านไม่เคยได้รับการเปิดเผยหรือตรวจสอบภายในโรงงาน และไม่มีผู้ใดรับรู้ว่ามีการลักลอบนำเอาเครื่องจักรต่างๆเข้ามาในโรงงาน จนกระทั่งมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่จึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่สงสัยว่าเหตุใดจึงมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าทั้งที่ไม่มีการผลิตในโกดังแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ จนกระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้จึงทราบความจริงว่ามีการลักลอบผลิตในโกดังแห่งนี้ ซึ่งถือว่านอกจากจะผิดสัญญาประชาคมที่ให้ไว้ต่อชุมชนแล้วยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกด้วย การเกิดเหตุในครั้งนี้ตนเองและชาวบ้านรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังเกิดเหตุครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านต่างพากันผวามากขึ้นกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดคิดของบริษัทแม่ที่อยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก โดยพบว่ามีสารเคมีและวัตถุเคมีและไวไฟสูงจำนวนมากในโรงงานถ้าเปรียบก็ไม่ต่างจากอาวุธนิวเคลียร์ ที่ทำลายล้างในรัศมีหลายกิโลเมตร ถึงแม้จะมีการหล่อเย็นไว้ก็ตามแต่หากเกิดเหตุขึ้นมาจะกลายเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ ที่ผ่านมาชาวบ้านพยามต่อต้านและร้องเรียนมาโดยตลอดแต่เรื่องก็เงียบหายไปไม่มีการเข้ามาตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเนื่องจากความมีอิทธิพลและเส้นสายของโรงงานชาวบ้านจึงต้องรอรับชะตากรรมจนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นมาจริงในครั้งนี้
นายวรณัฎฐ์ หนูรอต นายอำเภอพระประแดง เปิดเผยว่าเบื้องต้นพบว่าโรงงานแห่งนี้ปลูกสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่เศษ โดยจากการตรวจสอบพบว่าได้ขออนุญาตตั้งเป็นโกดังเก็บสินค้าที่เพิ่งสร้างเสร็จและใช้งานได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งจากการขออนุญาตใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าบนพื้นที่สีเขียวตามหลักกฎหมายนั้นสามารถทำได้ แต่หลังเกิดเหตุพบว่ามีการติดตั้งเครื่องจักรผลิตจริง ซึ่งถือว่ามีความผิด ตนเองได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งตรวจสอบและสั่งเอาผิดทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด พร้อมให้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกรายอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการได้เดินทางเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งประสานขอความร่วมมือกองพิสูจน์หลักฐานภาค 1 ให้เข้ามาช่วยตรวจสอบอย่างระเอียดอีกครั้ง ด้านเจ้าเหน้าที่จากสมาคมตรวจสอบอาคาร ได้เข้าตรวจโครงสร้างของอาคารโรงงานดังกล่าว พบว่าถูกไฟเผาผลาญ ได้รับความเสียหายทั้งหมดพร้อมเครื่องจักรและอุปกรณ์ความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: