ผู้กำกับ สภ.สำโรงเหนือ ลั่นให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายหากอาสาทำผิดจริงให้ดำเนินคดีอาญา พร้อมสั่งระงับอาสา ขณะที่ญาติและภรรยาผู้ตายไม่พร้อมให้ข้อมูลอ้างยังทำใจไม่ได้
ตามที่เพจแหม่นโพธิ์ดำ ได้ขึ้นข้อความพร้อมคลิป มีข้อความว่า ลูกเพจแจ้งมาว่าอาสาอยู่ดีๆไปถีบน้องเขา รถคว่ำ ตอนนี้ตายแล้ว รายละเอียดลงลึกไม่มีนะ รู้แต่เหตุเกิดที่ ซ. มิตรอุดมสมุทรปราการ มีเหตุการณ์ ทำนองนี้เกิดหลายครั้ง
ล่าสุดในวันนี้ที่ 26 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายศพผู้ตายมาทำการชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ ได้พบศพของนาย ธนกร สีชาติ อายุ 26 ปี นอนอยู่บนเตียงภายในห้องชันสูตรศพในสภาพมีบาดแผลที่บริเวณหน้าผากข้างซ้ายเป็นรอยเขียวช้ำขนาดใหญ่ แขนซ้ายหักและตามร่างกายมีบาดแผลอีกหลายแห่ง โดยมีญาติของผู้ตายมาร่วมดูการชันสูตรอยู่ที่หน้าห้องพักศพโดยที่ไม่ยอมเปิดเผยอะไรบอกเพียงว่ายังไม่พร้อมให้ข้อมูลเพราะยังทำใจไม่ได้ขอเผาศพผู้ตายก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ หลังจากนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาที่โรงพัก สภ.เมือง สมุทรปราการ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการเรื่องใบรับศพผู้ตายไปบำเพ็ญกุศล ส่วนศพของนายธรกร เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายในซอยมิตรอุดม หรือซอยสุขุมวิท 74 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ได้พบร่องการล้มของรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่มาพร้อมกับแฟนสาว ซึ่งที่บริเวณกำแพงของอพาร์ทเม้นท์ ไม่มีซึ่งภายในซอยดังกล่าวและพื้นถนนมีร่องลอยกันล้มและครูดจนกำแพงอพาร์ทเม้นท์และพื้นถนนเป็นทางยาว ซึ่งในที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวและโรงงานใกล้เคียงที่เกิดเหตุบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ แต่เจ้าของทั้งสองสถานที่ไม่ประสงค์ที่จะให้ภาพต่อผู้สื่อข่าว
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ เดโช โสสุวรรณากุล ผกก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดเหขึ้น โดย พ.ต.อ เดโช โสสุวรรณากุล ผกก สภ.สำโรงเหนือ ได้กล่าวว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นทางญาติผู้เสียหายจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อปากคำในช่วงเย็นของวันนี้ร่วมทั้งแฟนของผู้เสียชีวิตที่บาดเจ็บด้วย ขณะเดียวกันทางฝ่ายอาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าพนักงานคนที่ก่อเหตุคือนายธนพล ตั้มพิพัฒน์ อายุ 39 ปี ก็ได้นัดมาให้ปากคำด้วยเช่นกัน โดยทางเราจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ตามที่ภาพปรากฏบนคลิปนั้นคือเมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปะชะดะ ของเราได้มีการตั้งจุดสกัดภายในซอยมิตรอุดมโดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัคร ร่วมในการตั้งจุดสกัดเนื่องในเส้นทางดังกล่าวในเป็นเส้นทางที่มักจะมีการลำเรียงยาเสพติดอยู่เป็นประจำ และเป็นการป้องกันเหตุซึ่งเราก็ตั้งปกติ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่น้องทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอเห็นด่านตรวจจึงรีบเลี้ยวรถกลับและปรากฏภาพตามคลิป ส่วนในเรื่องอื่น ๆ คงต้องดูจากคำให้การของทั้งสองฝ่ายก่อน หากการสอบสวนพบฝ่ายใดกระทำผิดจริงเราก็ดำเนินคดีอย่างเต็มทีไม่มีระเว้น และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะทุกครั้งเราได้มีการเน้นย้ำมาตลอดว่าเวลาปฏิบัติหน้าที่ให้ทำอย่างตรงไปตรงมาห้ามทำนอกเหนือที่กฎหมายกำหนดหรือกระทำการเกินกว่าเหตุ ในเบื้องต้นในวันนี้ได้สิ่งการณ์ไปทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นชุดป้องกันและปราบปรามที่เรายังใช้กำลังอาสาสมัครอยู่ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
