เด็ก 10 เดือนตายปริศนาคาเนอสเซอรี่ ขณะที่เหยื่อเนอสเซอรี่โผล่ร้องอีกรายลูกวัย 4 เดือนถูกทำร้ายจนศีรษะแตก
จากกรณีที่นางสาว วราลี เสริมจันทร์ อายุ 34 ปี มารดาของเด็กชายจตุภัทร วรศาสตร์ อายุ 11 เดือน หรือน้องนาวา ผู้ตายได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมสื่อมวลชนจากการที่ตนเองนำน้องนาวา ไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ครูอ้อ ภายในหมู่บ้านสวัสดี เลขที่ 986 / 116 หมู่ 4 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ได้เพียง 6 วัน ลูกชายก็มาเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.25 น.วันที่ 25 เมษายน 2561 ศพน้องนาวา มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
นางสาว วราลี เสริมจันทร์ อายุ 34 ปี มารดาของน้องนาวา เปิดใจให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ตนนำลูกชายไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ครูอ้อ ภายในหมู่บ้านสวัสดี ย่านหลังวัดแพรกษาได้เพียง 6 วัน ลูกชายก็มาเสียชีวิตแบบปริศนา วันเกิดเหตุคือวันที่ 25 เม.ย. 2651 เวลา 13.25 น. ขณะที่ตนทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 ตนได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงของเนอสเซอรี่ครูอ้อ ว่าให้รีบกลับมาหาน้องนาวาโดยด่วนแต่ไม่ยอมบอกเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งตนเองเค้นถามปลายสายโทรศัพท์จึงแจ้งว่าน้องนาวาไม่มีลมหายใจแล้วและไม่สามารถบอกอะไรมากไปกว่านี้ ตนจึงลางานและรีบเดินทางมาดูน้องนาวา ด้วยใจแทบแตกสลาย หลังจากตั้งสติได้จึงรีบโทรศัพท์ไปหาสามีให้รีบเดินทางไปดูน้องนาวา เนื่องจากอยู่ใกล้และตนจึงรีบลางานและเดินทางมาดูน้องเช่นกันเมื่อมาถึงพบว่าน้องนาวานอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนภายในเนอสเซอรี่ คนเดียว โดยที่เด็กๆคนอื่นผู้ปกครองมารับกลับบ้านไปหมดแล้ว หลังจากเห็นสภาพศพลูกชายก็ถึงกับปล่อยโฮโผลเข้ากอดศพอุ้ม จึงรู้ว่าเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงจนตัวเริ่มแข็งแล้ว แต่ไม่มีการแจ้งเรื่องใดๆให้กับทางตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามีจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และแพทย์เวรที่มาชันสูตรเบื้องต้นระบุว่าน้องเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง โดยพี่เลี้ยงระบุว่าเพิ่งทราบว่าน้องเสียชีวิตก็ตอนที่โทรแจ้งมารดาโดยอ้างว่าพบเห็นน้องเอาผ้ามาปิดจมูกไว้ขณะที่กินนมนอนหลับทราบอีกที่จึงรู้ว่าน้องไม่มีลมหายใจแล้ว ซึ่งตนเองไม่เชื่อในสิ่งที่พี่เลี้ยงกล่าวอ้างและบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่เพื่อนบ้านหลังพบว่ามีตำรวจมาจึงพากันออกมาดูและบอกกับตนเองว่าไม่ทราบเรื่องว่ามีเด็กตายในนี้แต่พบเห็นว่าในช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. มีผู้ปกครองของเด็กคนอื่นนั้นเดินทางมารับบุตรหลานกลับบ้านกันหมด จึงเกิดความสงสัยว่าน้องนาวาเสียชีวิตในช่วงนั้นแต่กลับไม่มีการแจ้งเรื่องหรือพาน้องไปโรงพยาบาลแต่อย่างใดและปล่อยให้น้องนอนเสียชีวิตจนกระทั่งช่วงบ่ายถึงโทรแจ้งผู้ปกครอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพน้องนาวาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
ขณะที่มีรายงาน ใบรับรองการตายระบุว่า ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และทางด้านพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ต่อเจ้าของเนอสเซอรี่ครูอ้อและพี่เลี้ยงแล้วในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหากพบว่าผลการชันสูตรจากนิติเวชรออกมาระบุว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำให้ตายนั้น ก็จะแจ้งข้อหาพี่เลี้ยงและเจ้าของเนอสเซอรี่ครูอ้อ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตาย โดยเจตนา
ส่วนทางบ้านหลังที่เกิดเหตุที่มีการดัดแปลงเป็นเนอสเซอรี่ครูอ้อ นั้นพบว่าหลังเกิดเหตุได้หยุดประกอบกิจการและมีการนำป้ายออกไปแล้ว โดยมารดาระบุว่าหลังเกิดเหตุทางด้านเจ้าของได้มาร่วมงานแล้วพร้อมกล่าวขอร้องตนเองว่าอย่าให้เป็นข่าวเด็ดขาดและพร้อมจะออกมารับผิดชอบทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายงานศพและค่าทำขวัญ ซึ่งตนเองไม่รับข้อเสนอและแจ้งว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 29 เมษายน 2561 นางสาวอนงนาฏ ฟ้ากระจ่าง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 / 23 หมู่ 4 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แม่เด็กชายปราณนนท์ แซ่อึ้ง อายุ 4 เดือนครึ่ง หรือน้องนนท์ ที่นำบุตรชายไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่เดียวกันเพียงแค่วันแรก และถูกพี่เลี้ยงของเนอสเซอรี่ครูอ้อดังกล่าวทำร้ายร่างกายจนศีรษะแตก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม 2559 และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ศิวะ ริมฝาย สารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ โดยทางเจ้าของเนอสเซอรี่ครูอ้อ ยินยอมชดใช้ค่ารักษาและค่าทำขวัญให้จำนวน 3 หมื่นบาท แต่เงินไม่พอจึงจ่ายให้ก่อน 5 พันบาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายให้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2559 แต่ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม 2559 นางสาวอนงนาฏ แม่ของเด็กชายวัย 4 เดือนครึ่ง ได้รับแจ้งจากนางกมลวรรณ จีนจาโปะ อายุ 46 ปี เจ้าของเนอสเซอรี่ ครูอ้อ ว่าถ้าอยากได้เงินส่วนที่เหลือให้แจ้งความฟ้องร้องเอาเองและมีการตั้งทนายความรอไว้แล้ว นางสาวอนงนาฏ มารดาผู้บาดเจ็บเป็นเด็กชายวัย 4 เดือนเศษ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ศิวะ ริมฝาย สารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ อีกครั้งให้ดำเนินคดี แต่จนถึงบัดนี้เวลาผ่านไปกว่า 1 ปีคดีก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน
นางสาวอนงนาฎ กล่าวว่าตนเองได้ฝากเลี้ยงน้องนนท์ไว้กับเนอสเซอรีดังกล่าว เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2559 โดยที่ตนเองไปส่งน้องตนเช้าและไปรับกลับตนเย็น โดยทางเนอสเซอรี่บอกว่าน้องล้มเป็นแผลที่ศีรษะ โดยทางเนอสเซอรีจะไห้เงิน 500 บาท เพื่อไปซื้อยาทาแต่ตนเองไม่รับ ต่อมาตอนกลางคืนศีรษะน้องที่บวมโนอยู่ได้บวมโนใหญ่ขึ้น ตนเองจึงพาน้องส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ แพทย์ จึงให้น้องนอนโรงพยาบาล 1 คืน ตอนเช้าตอนเองจึงไปถามที่เนอสเซอรี่ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น น้องจึงได้รับบาดเจ็บแต่ทางเนอสเซอรี่ บอกว่ามีเด็กอีกคนเอาซ้อมพลาสติกมาจิ้มที่ศีรษะน้อง และก็บอกว่าน้องคลานแล้วล้มบ้าง แต่น้องอายุแค่ 4 เดือน น้องยังคลานไม่ได้ ตนเองเองก็บอกให้เนอสเซอรี่พูดความจริง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ตนเองจึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ บางปู ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 แต่ถึงเวลานี้คดียังไม่มีความคืบหน้าหรือมีการติดต่อจากทางเนอรศเซอศรี่เลย โดยตนเองจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับทางเนอสเซอรี่ดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เผาน้องนาวาเหยื่อเนอสเซอรี่เถื่อน แม่ลำไห้ลูบหัวอำลาลูกชายครั้งสุดท้าย ยันไม่อโหสิ
พิพากษาเจ้าของเนอสเซอรี่และพี่เลี้ยงจำคุก 3 ปี กรณีฝากเลี้ยงน้องนาวาและเสียชีวิต
