พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา ผู้บังคับการตำรวจน้ำ แถลง จับยาไอซ์ กลางกรุง กว่า 30 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เครือข่ายภาคเหนือ เบื้องต้นผู้ต้องหารให้การปฏิเสธ พร้อมขยายผลต่อ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.จตุรงค์ เปรมศิริ พ.ต.อ.ชวาล เพ็ญพาณิชย์ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมนายอนิรุตต์ (หม่ำ) กระทง อายุ 27 ปี และ นายชัชชัย (ปอย,ต๋อง) แต้มเก่ง อายุ 19 ปี ผู้ต้องหายาเสพติดเครือข่ายภาคเหนือ พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ ที่บรรจุอยู่ในซองใบชามีตัวหนังสือภาษาจีนสีดำบนซองสีทอง จำนวน 30 ห่อ ห่อละ 1 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 30 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยยึดของกลางทั้งหมดได้ที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าภายในหมู่บ้านเมืองทอง 2 โครงการ 3 ซอย 4 ถนนพัฒนาการซอย 53 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร และจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ภายในห้องน้ำชาย ชั้น 2 ทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 และอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
ข่าวน่าสนใจ:
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- มุกดาหาร -เลขาธิการ ป.ป.ส. ควงแม่ทัพภาค 2 ลงเรือตรวจสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว จ.มุกดาหาร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกระบวนการค้ายาเสพติดของกลุ่มนักค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเครือข่ายภาคเหนือ จนกระทั่ง เมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา สายลับได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติดในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีนายบี(นามสมมติ) เป็นผู้จัดหายาเสพติดจากแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และต่อมาในเดือนสิงหาคม 2560 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้อำพรางตัวเป็นสายลับไปติดต่อเจรจาขอซื้อยาเสพติดกับนายบี ที่จังหวัดเชียงราย โดยมีการพูดคุยนัดหมาย ที่จะซื้อขายยาเสพติดโดยจะซื้อขายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ โดยนายบี ได้แจ้งว่ามียาไอซ์ อยู่ประมาณ 50 กิโลกรัม ต่อมาเดือน กันยายน 2560 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายบี กับพวกจะเดินทางมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อมาเสนอขายยาเสพติด(ไอซ์) และพูดคุยกันในเรื่องรายละเอียดระหว่างกัน แต่ตกลงกันไม่ได้จึงได้แยกย้ายเดินทางกลับจังหวัดเชียงราย แต่ยังคงมีการเจรจาพูดคุยกันเรื่อยมา โดยตลอดตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 มาจนถึงปัจจุบัน นายบี ยังคงยืนยันที่จะหายาเสพติด(ไอซ์) มาส่งให้แต่ขัดเรื่องเงื่อนไขบางประการจึงต้องยุติการตกลงกันไป จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน 261 ทางสายลับได้รับการติดต่อจากนายบี ว่าจะนำยาเสพติด(ไอซ์) มาส่งมอบตามที่ได้เคยรับปากไว้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันวางแผนทำการล่อซื้อยาเสพติด(ไอซ์) จากนายบี โดยติดต่อล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 30 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 280,000 บาทถึง 300,000บาท และนัดหมายส่งมอบกันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 เมษายน 2561 โดยนายบี ได้เดินทางมา พร้อมกับ นายหม่ำ และนายชัชชัย เพื่อมาเจรจากับสายลับ และทางเจ้าหน้าที่ได้อำพรางตกลงซื้อขายส่งยาเสพติด (ไอซ์) จำนวนดังกล่าว แต่นายบี ได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดเชียงรายก่อน ปล่อยให้นายหม่ำและนายชัชชัย เป็นตัวแทนในการส่งมอบยาเสพติดจำนวนดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 1พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการติดต่อจากนายบี ว่าจะนำยาไอซ์ จำนวน 30 กิโลกรัม ไปมอบให้โดยจะนำของไปวางไว้บางส่วนที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าภายในหมู่บ้านเมืองทอง 2 โครงการ 3 ซอย 4 ถนนพัฒนาการซอย 53 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ส่วนเงินค่าของไปให้กับนายหม่ำและพวก ที่รออยู่ห้องน้ำชาย ชั้น 2 ทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 และอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบบริเวณที่ผู้ต้องหานำยาเสพติดไปวางไว้ ได้พบถุงดำภายในบรรจุยาไอซ์จำนวนประมาณ 30 กิโลกรัม วางไว้ที่โคนเสาไฟฟ้าภายในหมู่บ้านเมืองทอง 2 โครงการ 3 ซอย 4 ถนนพัฒนาการซอย 53 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำเงินไปมอบให้นายอนิรุตต์ หรือหม่ำ และนายชัชชัย ตามที่ตกลงกันไว้ภายในห้องน้ำชาย ชั้น 2 ทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 และอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองเอาไว้ได้ ก่อนคุมตัวทั้งสองมาทำการสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกับพวกที่ยังไม่ถูกจับกุม มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: