ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พักอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ว่ามีผู้ป่วยติดเตียงอาศัยข้าวกับเกลือปั่นกินประทั้งชีวิตแถมต้องย้ายที่อยู่ที่อื่น เดือดร้อนในเรื่องเคลื่อนย้ายและมีเงินไม่ที่จะสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่ที่ทางราชการจัดไว้ให้ จึงวอนผู้ใจบุญช่วยด้วย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พักอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ว่ามีผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องประทังชีวิตใช้ข้าวกับเกลือปั่นเป็นของเหลวให้ทางสายยาง ได้รับความเดือดร้อนบ้านที่พักอาศัยอยู่บนที่ของคนอื่น เจ้าของที่ดินต้องการที่ดินคืนต้องทำการรื้อถอนบ้านไปอยู่ที่อื่น ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและมีเงินไม่พอที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ ในพื้นที่วางเปล่าที่ไปเช่าไว้เดือนละ 200 บาทห่างจากที่เดิมประมาณ 500 เมตร หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายเอนก สุขสำราญ นายก อบต. คลองด่าน นายณรงค์เดช วงศ์ประเสริฐ รอง นายก อบต. คลองด่าน นาย ชนะ หงวนงามศรี สมาชิก อบจ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ปกครอง และทหารจาก รส.ร้อยหนึ่งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ได้พบว่าบ้านหลังดังกล่าวรถยนต์ไม่สามารถเดินทางด้วยเข้าไปได้ ต้องเดินเท้าบนสะพานปูนที่สร้างอยู่ริมคลองที่มีความกว้าประมาณ 1 เมตร เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม เป็นบ้านไม้เก่าสองชั้น ผู้ป่วยซึ่งเป็นชายนอนอยู่ชั้นล่างของบ้าน สภาพต้องเจาะคอช่วยหายใจ สวนสายปัดสาวะ และต้องให้อาหารทางสายยาง นอนอยู่บนที่นอน โดยมีนางสาวกฤษณะ เที่ยงหวอด อายุ 39 ปี ผู้เป็นภรรยาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยนางกฤษณะ ภรรยาสาวได้เล่าว่า ผู้ป่วยชื่อนายสุพจน์ แก้วมรกฎ อายุ 38 ปี เป็นสามีของตนซึ่งมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 3 ขวบ ก่อนหน้านี้สามีตนเคยทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวแต่ต่อมาเมื่อกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมานายสุพจน์ ผู้ป่วยได้ประสพอุบัติเหตุรถจักยานยนต์พลิกคว่ำด้วยตัวเอง ศีรษะฟาดกับพื้นอย่างแรงจนส่งผลกระทบต่อแกรนสมอง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางบ่อ และโรงพยาบาลสมุทรปราการ กระทั้ง กลางเดือน มีนาคม 2561 แพทย์ให้กลับบ้าน เนื่องจากไม่สามารถรักษาต่อได้ เนื่องจากสมองตายไปซีกหนึ่งและก้านสมองถูกกระทบรุนอย่างแรง จนไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ โดยผู้ป่วยไม่สามารถรับรู้อะไรทั้งสิ้น แต่ที่สามารถเคลื่อนไหวแขนขาได้บ้างเป็นเพราะปฎิริยาของยา ตนจึงพาสามีกลับพักฟื้นที่บ้าน มาดูแลกันเอง ต้องคอยให้อาหาร เช็ดตัว ให้ยา และต้องคอยดูแลลูก และดูแลย่าวัย 80 ปี ตนทำงานโรงงานต้องหยุดงานบ่อย มาคอยดูแลทางบ้าน รายได้จึงลดน้อย ไม่พอค่าใช้จ่าย บางวันต้องกินข้าวกับเกลือ และเอามาปั่นเป็นอาหารเหลวให้กับสามีได้กิน ชีวิตช่วงนี้ลำบากมาก บ้านที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด ก็กำลังจะต้องรื้อถอนออกเป็นเพราะ เจ้าของที่เก่าขายที่ให้กับนายทุนรายของใหม่ ชีวิตมืดมนทุกอย่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทั้ง ๆ ที่ไปหาเช่าที่ดินเพื่อปลูกบ้านใหม่ได้แล้วแต่ก็ไม่มีเงินที่จะไปจ้างคนงานมารื้อบ้านหลังเก่าไปปลูกในพื้นที่ใหม่ ประกอบในช่วงที่รื้อถอนบ้านหลังเก่าก็ไม่มีที่อยู่อาศัยให้สามีที่ป่วยพักอาศัย จึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครจึงเข้าขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียงขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ
นายณรงค์เดช วงศ์ประเสริฐ รองนายก อบต. คลองด่าน กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้รีบเข้ามาดูพร้อมกับประสานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่เนื่องจาก ผู้ป่วยมีสำเนาทะเบียนบ้านอยู่นอกพื้นที่ ด้วยระเบียบราชการแล้วทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ แต่อันไหนช่วยได้ก็จะรีบช่วย ให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องบ้านเคยไปเจรจาแล้ว แต่เจ้าของที่ดินยืนยันจะใช้พื้นที่ แต่ก็จะจ่ายค่ารื้อถอน เป็นเงินจำนวนหนึ่ง ส่วนบ้านที่จะย้ายไปอยู่ใหม่หากจากเดิม 500 เมตร ทาง อบต.ก็จะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องสถานที่พักชั่วคราวให้คนป่วยได้ไปพักก่อน ทั้งนี้ หากท่านใดจะร่วมช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว สามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองด่าน ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นางลับ เที่ยงหวอด บัญชีเลขที่ 040-1-80673-3
