เด็กชายติดเกมส์ออนไลน์โมโหถูกขโมยของในเกมส์ บวกกับแม่ทำหูฟังพังใช้มีดจะฟันแม่ จากการตรวจสอบพบว่าตัวเด็กหลังจากใจเย็นได้กราบขอโทษกับแม่ ด้านยายเผยหลานป่วยมาหลายปีเป็นโรคก้าวร้าว ใจร้อน อยากให้สังคมให้อภัย
จากรณีได้มีการแชร์คลิปในโลกออนไลน์เด็กชายกำลังนั่งเล่มเกมพร้อมกับ Live สดตะโกนด่าคนในเกม เนื่องจากโดนแกล้งเอาของในเกมไป จนยายต้องเข้ามาปลอบและพยายามบอกให้เลิกเล่นเกม แต่เด็กชายคนดังกล่าวยังอยู่ในอาการโมโหอย่างหนัก ได้ทุบแป้นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์นับสิบครั้งจนมือแตก ก่อนที่จะเดินไปหยิบเอามีดมาขู่คนในเกม ขณะที่ผู้เป็นแม่ได้เดินเข้ามาที่หน้าจอพร้อมกับได้หยิบเอาหูฟังมาพูดคุยและด่าคนในเกม ก่อนที่จะปาหูฟังลงพื้นจนแตกเสียหาย จนเด็กคนดังกล่าวหัวร้อนก่อนที่จะใช้มีดอีโตทีถืออยู่ในจะไปขู่จะฟันแม่และคลิปได้ตัดไป ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกแชร์ไปตามเพจต่าง ๆ ก่อนที่จะมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมของเด็กคนดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก ต่อมาเด็กชายคนดังกล่าวได้ทำคลิปขอโทษแม่โดยกราบเท้าพร้อมระบุว่าจะไม่ทำพฤติกรรมดังกล่าวอีกแล้ว พร้อม Live สดชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าวันที่เกิดเหตุ ได้เล่นเกมออนไลน์พร้อมกับมีคนมาแกล้งทำให้ของที่ซื้อมาในเกมหายไปหมด จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และยอมรับว่าตัวเองป่วยเป็นโรคควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ข่าวน่าสนใจ:
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ที่ 21 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของเด็กคนดังกล่าวซึ่งอยู่ภายในย่านถนนท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้พบกับยายของเด็กชายคนดังกล่าวอยู่ในบ้านกับน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านสมุทรปราการ โดยยายของน้องเอ วัย 66 ปี ได้เล่าว่า สำหรับเหตุการณ์ตามคลิปนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนเองนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงหลานชายใช้มือทุบคอมและเอะอะโวยวายจึงได้ตื่นขึ้นมาดูต่อมาได้ทราบว่าหลานชายถูกเพื่อนในแกล้งและโกงของในเกมส์ไปจนหมด ตนจึงได้พูดห้ามปรามและบอกให้หลานเลิกเล่น เนื่องจากเป็นห่วงหลานจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เนื่องจากป่วยด้วยโรคนี้มานานกว่า 2 ปีแล้วและยังระหว่างการรักษาต้องกินยาทุกวัน แต่ห้ามเท่าไหร่หลานก็ไม่ฟัง ยังคงใช้มือทุบคอมพิวเตอร์อีกหลายสิบครั้งด้วยความโมโห บวกกับโรคที่ป่วยอยู่กำเริบจึงทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พร้อมทั้งพูดว่าจะเอามีดไปไล่ฆ่าเพื่อนในเกมให้หมด ก่อนที่จะเดินหายไปที่หลังบ้าน ซึ่งขณะนั้นแม่ของน้องเอ ได้ตื่นขึ้นมาเห็นจึงได้มาหยิบหูฟังด่าทอคนในเกมอย่างรุนแรง ก่อนที่จะปาหูฟังลงพื้นจนแตกเสียหาย ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่น้องเอ เดินถือมีดกับมาพอดี มาเห็นหูฟังแตกจึงโมโหหนักใช้มีดจะฟันแม่ของตนเอง ตามคลิปที่ปรากฏ แต่ก็ไม่ได้ทำจริงเพียงแต่ขู่เท่านั้นจนกระทั่งตนแย่งมีดมาได้และบอกให้น้องเอ ใจเย็นและนั่งพักประมาณ 5 นาที ก่อนที่น้องเอ จะมีอาการดีขึ้น และมาก้มกราบเท้าขอโทษแม่ของตนเองที่ได้กระทำการก้าวร้าว
สำหรับน้องเอ ปกติก็เล่นเกมส์บ้าง แต่เล่นไม่นานเพราะต้องไปเรียนหนังสือ จนมาในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการเล่นเกม บางครั้งเดล่นถึงตี่ห้าก็มี สำหรับเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่รุนแรงแบบในครั้งนี้ และต้องทานยาทุกวัน วันไหนตนลืมเอายาให้กินอาการก็จะกำเริบแต่ไม่หนักแบบนี้ ตนก็จะวอนให้สังคมให้อภัยหลานชายตนด้วย เขาป่วยจริง ๆ และอยู่ในระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาล ฯ ก็อยากจะบอกว่าอย่าเล่นกันมากเลยเกม เล่นกันแค่พอสมควรพอแล้วจะได้พักผ่อน บางคนเล่นกันถึงขนาดพ่อแม่ว่าไม่เชื่อ ก็อยากจะให้เล่นกันให้น้อยลงหน่อย เล่นก็แค่พอคลายเครียดก็พอ พ่อแม่บางคนก็กลุ่มใจ ก็อยากจะให้เล่นกันแค่พอประมาณก็พอแล้ว
ด้านน้องเอ ได้กล่าวว่า ตนเพิ่งมาเล่นเกมในคอมได้ประมาณเดือนกว่า ๆ เท่านั้น วันที่เกิดเหตุเพื่อนในเกมมันขโมยของที่ตนสะสมไว้ในเกมไป ทำให้ตนโมโหและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เนื่องจากตนป่วยเป็นโรคไฮเปอร์สมาธิสั้น แบบว่าปี๊ดแตกง่าย ๆ ต้องทานยาอยู่เป็นประจำซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ ขนาดวันที่เกิดเหตุตนทานยาไปเมื่อช่วงเย็นแล้ว แต่มันมาและตนเองควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ จึงได้เดินไปหยิบมีดที่หลังครัวเพื่อที่จะเอามาขู่ กะว่าจะเอามาขู่เฉย ๆ แต่เมื่อตนขึ้นมาเห็นแม่ปาหูฟังจนแตกทำให้ตนโมโหมาก และที่หันไปจะไปทำร้ายคุณแม่นั้น ตนไม่ได้ตั้งใจ และก็ไม่เคยคิดว่าจะทำร้ายแม่แต่อย่างใด หลังเกิดเหตุประมาณ 5 นาทีตนก็เริ่มควบคุมอารมณ์ได้และก็มาก้มกราบขอโทษคุณแม่แล้ว ซึ่งในครั้งแรกไม่ได้ถ่ายคลิปหรือ Live สดแต่อย่างใด จนกระทั่งมีเพื่อนในเฟซบอกว่าให้ Live สดด้วยในขณะที่ตนกราบขอโทษแม่ เพื่อให้คนภายนอกได้เห็นว่าตนไม่ได้ตั้งใจและป่วยอยู่จริง ๆ และสำนึกผิด และก็อยากจะวอนให้สังคมช่วยลบคลิปออกด้วยเพราะว่าตนไม่ได้ตั้งใจและตนเองก็ป่วยอยู่ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: