วัยรุ่นปริศนา ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้ามัสญิด ก่อนจะปาระเบิดเพลิงใส่รั้วมัสญิด ทำให้หลังคา และป้ายไวนิลได้รับความเสียหาย ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมเร่งหาตัววัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 พ.ต.ท.สุนทราพร จาตูม สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เดินเข้าหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังเมื่อเวลา 23.30 น. ที่ผ่านมา ได้มีวัยรุ่นชาย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นทะเบียน มาจอดหน้า มัสญิด อัล-เอี๊ยะซาน ภายในซอยอักษรลักษณ์ หมู่ 5 ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง สมุทรปราการ วัยรุ่นดังกล่าวได้ปาระเบิดเพลิงใส่มัสญิด ทำให้ป้ายไวนิลที่ติดอยู่บริเวณรั้วได้รับความเสียหาย
จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นมัสญิด 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณหลังคา ซึ่งเป็นโพลี่คาร์บอเนต พบรอยเขม่าไฟติดอยู่ ที่ป้ายไวนิล ซึ่งถูกนำลงมาจากที่แขวนไว้ มีรอยถูกไหม้ได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบเศษขวดแก้วแตกกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่บริเวณหน้ามัสญิด จำนวน 3 ตัว เพื่อหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ และจะเร่งนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบถามนายอนัส มูลศรี อายุ 46 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากเสร็จพิธี ละมาด ตนยังไม่ได้เดินทางกลับบ้านพัก จึงได้ไปนั่งเล่นอยู่ มัสญิด ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ กระทั้งเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน ขณะที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ได้ยินเสียง ดังคลายระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้ามัสญิด และก็เกิดไฟลุกไหม้บริเวณหลังคา โดยไม่เห็นว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ก่อนที่ตนและชาวบ้าน จะช่วยกันเอาน้ำมาดับไว้ได้ ต่อมาหลังเกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านเล่าให้ตนฟังว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นชายวัยรุ่น ไม่สวมหมวกกันน็อก ได้ขี่รถจักรยายนต์ไม่ทราบรุ่นทะเบียน มาจอดหน้ามัสญิด ก่อนที่ใช้จุดไฟและปาระเบิดข้ามกำแพงมาก่อนจะไปถูกหลังคาจนเพลิงไหม้ดังกล่าวโชคที่ตนและชาวบ้านช่วยกันเอาน้ำมาดับไว้ได้ส่วนคนรายทราบว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทางซอยมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท
ส่วนทางด้าน นายสมพงษ์ ทินะพันธุ์ อายุ 67 ปี กรรมการมัสญิด อัล-เอี๊ยะซาน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตนได้สอบถามวัยรุ่นที่อยู่ในชุมชนหมดแล้ว ซึ่งทั้งหมดก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และวัยรุ่นในชุมชน ไม่น่าจะมาทำพฤติกรรมแบบนี้กับมัสญิด จึงคิดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นนอกพื้นที่ เมาและคึกคะนองมาก่อเหตุมากกว่า
เบื้องต้นหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีเพียงป้ายไวนิวเสียหาย ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งนี้จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยง ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: