จากกรณีคดีอุ้มสาวชาวจีนเรียกค่าไถ่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน จำนวน 2 ราย หลังมีความสอดคล้องกับกล้องวงจรปิดที่พักที่คนร้ายพาผู้เสียหายไปกักขัง พร้อมเชิญผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติม
จากกรณีเมื่อบ่ายของวานนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ได้แถลงผลการช่วยเหลือ น.ส.จิน ไซ่ ผู้เสียหายชาวจีน ที่ถูกกลุ่ม 5 คนร้ายทั้งชาวำทยและชาวจีน อุ้มตัวเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทยจำนวน 15 ล้านบาทไทย หรือ 3 ล้านหงวนสกุลเงินของจีน เหตุเกิดที่สนามบินสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ประจำม่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาได้แจ้งจากสามีผู้เสียเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 หลังจากที่สามีผู้เสียหายจ่ายเงินค่าไถ่ไปแล้วเกือบ 10 ล้านบาทไทย แต่ภรรยายังไม่ได้การปล่อยตัว หลังทราบข้อมูลเจ้าที่ได้เร่งสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุมี 5 คนมีหญิงชาวไทยร่วมด้วย 1 คนอีก 4 คนเป็นชาวจีนและมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมด้วยอีก 1 นาย เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนไหวกดดันจนกลุ่มคนร้ายได้นำผู้เสียหายมาปล่อยทิ้งริมถนนบางนาตราด หลักกิโลเมตรที่ 3.5 แขวงเขตบางนา ก่อนที่ผู้เสียหายและญาติจะพากันเข้าปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- หอการค้าไทยมอบ “ผู้ว่าสำเภาทอง” กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาตลาดอินโดจีนที่ถูกแช่แข็งนาน เกือบ 6 ปี
- ตรัง เกษตรกรเลี้ยง 3 สัตว์เศรษฐกิจ ปูดำ-ปูหน้าขาว-กุ้งกุลา รายได้ดีมีตลาดรองรับ ปลดหนี้ 6 ล้านได้ในเวลาปีกว่า
- เครื่องบินตกครบ 3 เดือนกับความกระจ่างที่ยังไม่ปรากฏ คนพื้นที่ยังหวาดหวั่นคาใจ
- ศุภาลัย เปิดบ้านซีรีส์ใหม่ Tropical Modern ครั้งแรก! ในสุราษฎร์ฯ ปักหมุดแบรนด์ “ปาล์มวิลล์ โกเตง” ตอบโจทย์ชีวิตติดเมือง
ความคืบหน้าในวันนี้ที่ 22 พฤษภาคม 2561 ล่าสุดทราบว่าได้มีคำสั่งย้ายดาบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคนดังกล่าวแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และสามารถจับกุม สองผู้ต้องหาชาวไทยแล้ว
โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้อ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจาก หญิงไทยที่อยู่ระหว่างหลบหนี ให้มาเฝ้าเหยื่อสาวชาวจีน ขณะที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอีก 2 นาย ที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ ส่วนมูลเหตุของคดีตำรวจเชื่อว่า มาจากเรื่องหนี้สินระหว่างคู่กรณี
ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ขณะ ชายไทยอายุระหว่าง 35 – 38 ปี 2 คน ที่ ท่าเรือบ้านเพ ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นหลักฐานที่ ตำรวจสืบลสวนภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 3 ใช้ติดตาม เชิญชายทั้ง 2 คน มาให้ข้อมูล เพราะสถานที่นี้เป็นอีกแห่ง ที่กลุ่มชาวจีนแก๊งเรียกค่าไถ่ 10 ล้านบาท นำหญิงสัญชาติเดียวกันมากักขัง ระหว่างรอเรียกเงินค่าไถ่ โดยได้ค่าจ้างวันละ 1,000 บาท ต่อ คน จาก นางสาววรรณษิการ เติมธนาภัทร 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา ให้มาเฝ้าหญิงชาวจีน แต่อ้างไม่ทราบที่มาว่า เป็นการอุ้มรีดค่าไถ่ แต่ยอมรับว่าเห็นหญิงไทยคนนี้ใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะหญิงชาวจีน ตำรวจจึงเก็บรวบรวมเป็นข้อมูล สำหรับสำนวนคดี
สอดคล้องกับคำยืนยันของ หญิงจีนผู้เสียหายที่ระบุว่า ชาย 2 คนนี้ อยู่ในกลุ่มคนไทย ที่ร่วมกันกักขังรวมทั้ง ย้ายตัวเธอไปไว้อีกสถานที่หนึ่ง ระหว่างมีการเรียกค่าไถ่ พนักงานสอบสวน จึงเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับกุมบุคคลที่เหลืออีก 3 คน ส่วน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 นาย ที่ ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีส่วนรู้เห็นกับคดีหรือไม่ ขณะที่ ตำรวจระบุว่า แม้มูลเหตุแห่งคดีจะมาจากเรื่องหนี้สิน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: