ไกน์สาวสุดเซ็ง เข้าแจ้งความหลังถูกแก๊งมิจฉาชีพแอดเป็นเพื่อนผ่านเฟสบุ๊คหลอกโอนเงินเรียกเก็บค่าภาษีค่าขนส่งทรัพย์สิน สูญเงินกว่าหมื่นบาท
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 นางสาว เอ (นามสมมุด) อายุ37 ปี ไกน์สาวชาวไทย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ให้ช่วยติดตามจับกุมแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกโอนเงินสดจำนวน 15,000 บาท พร้อมสลิปหลักฐานการโอนเงินและหลักฐานคลิปเสียงการสนทนากับหนึ่งในแก๊งมิจฉาชีพมาแสดง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยนางสาว เอ ไกน์สาวได้เล่าให้ฟังว่า ตนทำอาชีพเป็นไกน์อิสละให้กับทัวร์ชาวจีนในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 วัน ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งใช้รูปโปรไฟร์เป็นชาวต่างชาติ แอดเข้ามาขอเป็นเพื่อน ตนจึงเข้าไปดูโปรไฟร์และข้อมูลของชาวต่างชาติรายนี้พบว่ามีการลงข้อมูลทำธุรกิจหลายอย่างและมีการนำภาพถ่ายการทำงานขึ้นโชว์ในเฟสบุ๊ค ตนจึงตัดสินใจรับเป็นเพื่อน ผ่านไปไม่กี่วันก็ได้รับข้อความจากชาวต่างชาติรายนี้ผ่านทางอินบล็อกและได้มีการแชทพูดคุยกันปกติทั่วไป แต่การแชทของชาวต่างชาติจะพิมพ์มาเป็นภาษาไทย เมื่อตนสอบถามว่าใช่คนต่างชาติจริงหรือไม่ทำไมพิมพ์ภาษาไทยได้ ชาวต่างชาติตคนดังกล่าวได้อ้างว่าใช้แอฟแปลภาษาไทยในการพิมพ์สนทนา ซึ่งแรกๆตนเองก็ไม่ได้เอะใจและก็มีการแชททักทายกันเรื่อยมาผ่านไป 3 วัน ชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้บอกว่าอยากเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ติดเรื่องการนำทรัพย์สินทั้งเงินสดดอลล่าจำนวนมากและทองรูปพรรณต่างๆ เข้ามายังประเทศไทยไม่ได้ หากจะนำเข้าจะต้องเสียภาษีศุลกากรแพงมาก และมีวิธีเดียวคือว่าจ้างบริษัทขนส่งเอกชนนำเข้ามาแต่จะต้องจ่ายค่าขนส่ง โดยจะส่งทรัพย์สินทั้งหมดมาไว้ที่ตนก่อน แต่ตนต้องสำรองจ่ายค่าขนส่งให้ก่อน และไปติดต่อรับทรัพย์สินดังกล่าวมาเก็บไว้เพื่อเตรียมลงทุนในประเทศไทยและแบ่งรายได้กัน ตนยอมรับว่าอาจเกิดความโลภจึงตอบตกลงไป และให้ชาวต่างชาติรายนี้ส่งทรัพย์สินผ่านทางบริษัทขนส่งมายังประเทศไทยพร้อมแนบหลักฐานการส่งสินค้ามาให้ตนดู
หลังจากนั้นผ่านไปวันเดียวชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้ส่งหลักฐานการส่งสินค้าของบริษัทเอกชน มาให้ โดยระบุชื่อผู้รับคือตนเองและเบอร์ติดต่อบริษัทขนส่ง ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นคล้ายกับบัตรขนส่งสินค้าที่จะต้องให้มีการระบุชื่อผู้ส่งและผู้รับ ซึ่งตนเองดูจากภาพถ่ายที่ได้รับก็มีการระบุไว้อย่างชัดเจน ตนจึงตัดสินใจติดต่อไปยังบริษัทขนส่งโดยปลายทางมีหญิงวัยกลางคนเป็นคนรับสายและมีการพูดคุยรายละเอียดกันตามข้อมูลที่ชายชาวต่างชาติรายนี้แจ้งไว้ โดยหญิงคนดังกล่าวที่อ้างว่าอยู่ในบริษัทขนส่งได้ชี้แจงค่าใช้จ่ายในการเสียภาษีและค่าขนส่งรอบแรกเป็นเงิน 15,000 บาท จึงจะสามารถตรวจสอบสินค้าได้ว่าจัดส่งถึงประเทศไทยจริง ตนจึงตัดสินโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังบริษัทขนส่ง ตามที่กล่าวอ้าง โดยบัญชีของคนต่างชาติที่แจ้งมานั้นทางบริษัทขนส่งระบุว่าเป็นบัญชีของหุ้นส่วนบริษัทขนส่ง หลังจากโอนเงินเสร็จตนก็ได้โทรแจ้งไปยังบริษัทขนส่งดังกล่าวเพื่อขอตรวจสอบว่าสินค้ามีการจัดส่งมาจริงหรือไม่และก็แจ้งว่ามีการจัดส่งจริงและมีเลขแทคระบุไว้ชัดเจน แต่หลังจากที่สินค้าเดินทางมาถึงยังประเทศไทยตนเองจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ 58,000 บาท เพื่อรับสินค้าทั้งหมด ซึ่งตนเองเอะใจจึงสอบถามเพื่อนร่วมงานและเพื่อนแจ้งว่าอาจจะถูกหลอกให้โอนเงิน จึงรีบตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งพบว่าไม่สามารถติดต่อได้แล้ว จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่ จึงมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ พร้อมออกมาเตือนภัยกับผู้ใช้เฟสบุ๊คให้ควรระวังเนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีมิจฉาชีพเปลี่ยนแปลงการก่อเหตุบ่อยครั้งและมีการทำเป็นขบวนการเหมือนอย่างที่ตนเองโดนมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: