แม้จะเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองในเทศกาลสงกรานต์ แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่ากว่า 70 นาย จากอุทยานแห่งชาติผาแดง สถานีควบคุมไฟป่าเชียงดาว และ เจ้าหน้าที่เสือไฟ ยังคงเข้าดับไฟและควบคุมพื้นที่ไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาวที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา โดยไฟป่ากระจายอยู่ใน 5 ตำบล คือ ตำบลเชียงดาว ตำบลเมืองงาย ตำบลปิงโค้ง ตำบลทุ่งข้าวพวง และ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หนักที่สุดคือด้านทิศเหนือติดบ้านนาเลาและบ้านฟ้าสวย ตำบลเชียงดาว เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าสับเปลี่ยนกำลังเข้าดับไฟตลอด 3 วัน 3 คืน จึงควบคุมไฟไว้ได้
ล่าสุดในวันนี้ ( 15 เมษายน ) สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลังจากตลอดสามวันที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติบินทิ้งน้ำในจุดสำคัญไป 20 เที่ยว เพื่อบรรเทาความรุนแรงของเชื้อไฟ รวมทั้งทำแนวกันไฟเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรให้ไฟชนแนวกันไฟจนสามารถควบคุมไฟได้ โดยในวันนี้พบจุดความร้อนในอำเภอเชียงดาว 22 จุด จากทั้งหมด 128 จุดทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่
ข่าวน่าสนใจ:
- ผู้ต้องสงสัยคดีคาร์บอมขัดขืน ดึงพวงมาลัยจนรถเสียหลักพุ่งชนคอสะพานยับ ทหารตาย 1 เจ็บ 3 ส่วนคนร้ายหนีเข้าป่า
- ชัยภูมิ นทท.แห่สัมผัสทะเลหมอกน้ำค้างแข็งหลายพื้นที่แตะ 7 องศาคึกคัก!
- สืบสวนบางพลีโชว์ผลงานตามรวบอดีตช่างกุญแจผันตัวเป็นโจรใช้ความรู้ที่มีทำกุญแจรีโมทขโมย จยย.หรู
- รมต.วัฒนธรรม เปิดงานแห่ดาวคริสต์มาสจังหวัดสกลนคร "เสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา"
ส่วนคุณภาพอากาศจากรายงานกรมควบคุมมลพิษ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่มีสถานีตรวจวัดอยู่รวม 32 จุด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 เกินมาตรฐานทั้งหมด อยู่ในระดับสีส้ม 17 จุด อยู่ในระดับสีแดง 15 จุด โดยที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีค่าพีเอ็ม 2.5 มากที่สุดในภาคเหนือ 243 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคืออำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 238 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษอากาศที่เรียกได้ว่าวิกฤตหนัก ต่อเนื่องมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: