มลพิษเชียงใหม่วิกฤต PM.2.5 พุ่งไม่หยุด ใกล้แตะ 500 มก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศแย่สุดในโลก สสจ.ส่งทีมแพทย์เร่งด่วนลงพื้นที่ ผู้ว่าฯ สั่งงดเผาทุกพื้นที่แล้ว พร้อมแนะนำประชาชน ไม่ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น
วันที่ 7 มีนาคม 2567 สภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงจมฝุ่น อยู่ในชั้นวิกฤตหนัก ทั่วทั้งจังหวัดอยู่ท่ามกลางหมอกควันหนาทึบ ทัศนวิสัยในการมองเห็นเลือนลาง ค่าฝุ่นพิษสูงขึ้นไม่หยุดจนส่งผลขึ้นเป็นอันดับ 1 เมืองที่มีอากาศแย่ที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ iqair.com โดยมีค่า AQI ถึง 219 โดยมีรายงานค่าฝุ่น PM2.5 ที่สถานีตรวจวัด รพ.สต.ปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว สูงถึง 481 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ พุ่งอยู่ที่ 457 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ประชาชนพากันกลับมาสวมหน้ากากอนามัย
ทำให้ในช่วงบ่ายวันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ต้องส่งทีมแพทย์เคลื่อนที่ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนที่ รพ.สต.ปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว รวมทั้งเตรียมแจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นควัน สนับสนุนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานตัวเลขผู้ป่วยจากวิกฤตมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น
ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ออกประกาศฉบับที่ 2 ระบุว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เฝ้าระวังสุขภาพ โดยงดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง
และขอความร่วมมือประชาชน งดการเผาทุกชนิด งดใช้รถยนต์ที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน เพื่อลดการเกิดฝุ่นควันสะสมในอากาศ อันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งให้งดการเผาเพื่อบริหารจัดการเชื้อเพลิง หรือ การชิงเผา ในทุกพื้นที่ชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หลายหน่วยงานกำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ในการบรรเทาปัญหา โดยเฉพาะทีมฝนหลวง ที่กำลังปฏิบัติการเจาะชั้นบรรยากาศระบายกลุ่มหมอกควัน ส่วนผลกระทบสุขภาพ แนะนำให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านหากไม่มีความจำเป็น และขอให้ดูแลสุขภาพ
