เมื่อ 3 ปีที่แล้ว หลายคนรู้จักเธอในฐานะผู้ที่ทำคะแนนสอบแอดมิชชั่นได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศในคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มาในปีนี้ ศิรดา ไตรตรึงษ์ทัศนา หรือ“น้องปราง” เป็นที่รู้จักอีกครั้งในระดับนานาชาติ ด้วยความสำเร็จจากภาพยนตร์ “Invisible Murder”ที่เธอกำกับ ถ่ายภาพและตัดต่อ
หนังสั้นเรื่องนี้ ได้รับรางวัล Silver Award สาขา Woman Film Maker จากการประกวดเทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และยังคว้ารางวัลการตัดต่อภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์ South Film and Arts Academy Festival ที่ประเทศชิลี อีกด้วย
ศิรดา เผยถึงภาพยนตร์เรื่อง “Invisible Murder” ว่าเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าและ ทริลเลอร์ เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีตัวตน จึงต้องการทำอะไรบางอย่างให้ตัวเองโดดเด่นและเป็นที่รู้จัก แรงบันดาลใจของเรื่องนี้มาจากเรื่องราวในชีวิตของตัวเองเมื่อเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จากเด็กนักเรียนมัธยมสู่การเรียนในมหาวิทยาลัย จึงอยากนำเสนอความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้น
“ปรางเป็นคนแรกในชั้นเรียนที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ปรางสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนเรียนจบ ปีสอง และไปเรียนซัมเมอร์ด้านภาพยนตร์ที่นิวยอร์ค การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้มีอุปสรรคอยู่บ้าง เนื่องจากทุกคนในทีมเป็นมือใหม่ทั้งหมด และระยะเวลาการทำงานก็สั้นมาก ใช้เวลาถ่ายทำ 2-3วัน ตัดต่ออีกราว 1สัปดาห์ อาจารย์ที่สอนภาพยนตร์ที่นิวยอร์คแนะนำให้ส่งผลงานเข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการปฏิเสธมามากเพราะเป็นเรื่องยากที่ผลงานของผู้กำกับหน้าใหม่จะได้รับการยอมรับ จนวันหนึ่งปรางได้รับอีเมลว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเลือกไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ค ซึ่งเป็นความฝันที่ไกลที่สุดแล้ว ยิ่งได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัล ก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก”ศิรดา เล่าถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ
ศิรดาเผยถึงเหตุผลที่เลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ว่า เพราะชื่นชอบการชมภาพยนตร์เป็นชีวิตจิตใจ ภาพยนตร์เป็นสื่อที่สามารถถ่ายทอดความคิดให้ออกมาเป็นภาพ และยังซ่อนแนวคิดต่างๆ เอาไว้มากมายนอกเหนือจากความบันเทิง คนที่เรียนภาพยนตร์ควรเป็นคนที่ไม่ปิดกั้นตัวเอง กล้าที่จะคิดนอกกรอบ ชอบนำเสนอความคิดของตนเอง และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ภาพยนตร์ไทยมีเสน่ห์ไม่แพ้ภาพยนตร์ชาติใดในโลก
ข่าวน่าสนใจ:
เธอรู้สึกภูมิใจ ที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยเป็นที่น่าจับตามอง อย่างเรื่อง “ฉลาดเกมโกง”ที่ได้ไปฉายมาแล้วทั่วโลกและได้รับรางวัลมากมาย ความใฝ่ฝันในอนาคตอยากเป็นผู้กำกับหญิงของเมืองไทย อยากทำภาพยนตร์เรื่องยาวสักเรื่อง และพาพ่อเม่ รวมทั้งเพื่อนๆ ไปชมผลงานของตัวเองในโรงภาพยนตร์
นอกจากนี้ ยังได้ฝากคำแนะนำสำหรับน้องๆที่อยากประสบความสำเร็จในงานกำกับภาพยนตร์เช่นเดียวกับเธอว่า“ขอให้ซื่อสัตย์กับความรู้สึกและความคิดของเรา มีเป้าหมายที่ชัดเจน อย่าให้คนอื่นมาบอกเราว่าต้องทำอะไร เพราะนี่คือภาพยนตร์ของเรา ภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่สร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะถ่ายทำด้วยอะไร ใช้งบมากแค่ไหน ขอเพียงแค่บอกเล่าสิ่งที่เรารู้สึก สิ่งที่มีความหมายกับเราย่อมมีความหมายกับคนอื่นด้วย ภาพยนตร์ทุกเรื่องมีกลุ่มผู้ชมของมันเอง ความสำเร็จของภาพยนตร์ไม่ได้อยู่ที่รายได้ แต่อยู่ที่ผลตอบรับจากผู้ชมมากกว่า”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: