ใครล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานเจอดีแน่ สทพ.ออกมาตรการเข้ม ป้องกันและแก้ปัญหา ให้คุ้มครองผู้ร้องทุกข์และพยาน ไม่ให้กระทบงานและการดำรงชีวิต สั่งหน่วยงานรัฐขจัดภาพโป๊เปลือยในปฏิทินและหน้าจอคอมพิวเตอร์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (สทพ.) แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2561 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยาน กรณีถูกล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในสถานที่ทำงาน
ที่ประชุมเห็นชอบมาตราการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์ และผู้เป็นพยาน มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ถูกล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานมีความกล้าและมั่นใจที่จะดำเนินการตามมาตราการในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน โดยไม่ต้องรู้สึกอับอายหรือหวาดกลัวต่อการที่อาจต้องสูญเสียการงานหรืออาชีพ
มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย
1) การกำชับให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในการทำงาน
2) เมื่อมีการร้องทุกข์แล้วผู้ร้องทุกข์และพยานจะไม่ถูกดำเนินการใดๆ ที่กระทบต่อหน้าที่การงานหรือการดำรงชีวิต หากจำเป็นต้องมีการดำเนินการใด ๆ เช่น การแยกสถานที่ทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยานและผู้ถูกกล่าวหาพบปะกัน เป็นต้น ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ร้องทุกข์และผู้เป็นพยาน
3) ให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเป็นศูนย์ประสานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานรวมทั้ง กำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรการ
4) ให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยขจัดสิ่งแวดล้อมที่ล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ เช่น ภาพลามก ภาพโป๊เปลือยในปฏิทินและหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ประชุมเห็นชอบ (ร่างแผน) ขับเคลื่อนการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ เพื่อให้เป็นทิศทางตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ(สทพ.) แห่งชาติโดยมีแผนงานหลัก ดังนี้
1) ส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมระหว่างเพศ
2) ส่งเสริมให้มีการสร้างพลังอำนาจของผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ
3) กำหนดนโยบายที่เอื้อให้องค์กรเกิดพลังในเชิงบวกในการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และ
4) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ
