วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โคกยาง นำตัวนายโอ๋ อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า สามีใหม่ของน.ส.วิลินทรา พิลาพันธุ์ หรือสาว สาวไทยอายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ถ.ขื่อนา ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง กับนายอู๋ อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมสัญชาติพม่า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณขนำภายในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง หลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ โดยนายโอ๋ สามีของผู้ตายถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ที่พื้นที่ปากอ่าว จ.ชุมพร ขณะหลบหนีออกจากจังหวัดตรังไปพักกบดานอยู่กับญาติ รอเดินทางหนีกลับประเทศ ส่วนนายอู่ ซึ่งเป็นเพื่อนของนายโอ๋ ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ภายในแคมป์คนงาน โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โคกยาง ซึ่งหลังจากร่วมกันก่อเหตุแล้วก็กลับไปทำงานตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ ทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดยนายโอ๋สารภาพว่าลงมือฆ่านางสาววิลินทรา เมื่อตอนสายของวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน จากนั้นจึงโทรศัพท์ตามนายอู่ ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งใกล้ๆกัน ให้มาช่วยจัดการศพ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบรับสารภาพ เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่นายโอ๋ ทะเลาะกับผู้ตายภายในขนำ ชั้นเดียว โดยนายโอ๋ลงมือทำร้ายนางสาววิลินทรา บนที่นอน โดยดึงเชือกซึ่งใช้สำหรับเป็นราวตากผ้าข้างผนังห้องมารัดคอผู้ตาย เมื่อผู้ตายสลบซึ่งเชื่อว่าตายแล้ว จึงห่อศพผ้านวม จากนั้นนำเอาศพห่อด้วยถุงดำอีกชั้น และยัดลงในถังสีดำ 2 ใบ ซึ่งเป็นถังสำหรับเก็บเสื้อผ้าภายในห้อง จากนั้นได้รอนายอู่ ซึ่งนายโอ๋ได้โทรศัพท์เรียกให้เข้ามาช่วย กันหามศพที่ยัดไว้ในถังสีดำ ออกทางประตูหลังขนำ พาเข้าไปสวนยางพารา เพื่อจะนำไปศพไปฝังในจุดที่พบศพ โดยระหว่างทางซึ่งทั้งคู่ช่วยกันหามถังสีดำ ซึ่งภายในมีศพผู้ตายอยู่ก็จอดแวะพักตลอดทาง นับ 10 ครั้ง เนื่องจากระยะทางไกลประมาณ 200 เมตร และต้องเดินผ่านสะพานเล็กข้ามลำธาร 2 จุด จึงค่อนข้างทุลักทุเล จนกระทั่งนำศพผู้ตายไปวางไว้ที่ริมทางจุดหนึ่ง ห่างจากจุดพบศพประมาณ 50 เมตร นายอู่ ผู้ต้องหาคนที่ 2 ได้ขอตัวกลับไปก่อน ทิ้งนายโอ๋ สามีผู้ตายไว้คนเดียว นายโอ๋จึงไปเอาจอมจากขนำ เพื่อนำขุดหลุมเตรียมฝังศพ จากนั้นได้ลากถังสีดำ ซึ่งภายในมีศพอยู่ไปจนถึงจุดพบศพดังกล่าว และพยายามจะขุดหลุมฝังศพต่อให้เสร็จ แต่ทำไม่ไหวคนเดียว จึงทิ้งศพไว้ดังกล่าวแล้วหลบหนีไป
ในเวลาประมาณ 16.00 น. นายโอ๋จึงเดินทางกลับยังขนำ เก็บเสื้อผ้าแล้วโทรศัพท์เรียกนายอู่ ที่เดินทางกลับออกไปก่อนให้กลับมารับ ขับรถจักรยานยนต์พาไปส่งที่ท่ารถแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรม เพื่อเดินทางไปบ้านญาติที่จังหวัดชุมพร ส่วนนายอู่ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาทำงานที่โรงงานตามเดิม จนกระทั่งตำรวจติดตามจับกุมได้ทั้ง 2 คน ดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผนประมาณ 1 ชม.ก็แล้วเสร็จ และภาพที่น่าสลดใจในขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพคือ มีทั้งสุนัขและแมวที่นายโอ๋ และผู้ตายเลี้ยงไว้ แสดงอาการดีใจที่เห็นนายโอ๋กลับมา เนื่องจากหลังเกิดเหตุถูกปล่อยให้อยู่ขนำ อดข้าวอดน้ำตามลำพัง โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลที่พยายามวิ่งเข้าหานายโอ๋ และร้องตามอย่างน่าเวทนา โดยนายโอ๋ พยายามจะอุ้มสุนัขตัวดังกล่าวด้วย แต่ต้องวางลง เพราะตัวเองต้องถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
ทางด้านพล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปติดตามคดีด้วยตนเองที่ สภ.โคกยาง กล่าวเพียงสั้นๆว่า คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาจำนวน 2 คน จับได้แล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
โดยคดีดังกล่าว เกิดขึ้นจากเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ มีการพบศพ น.ส.วิลินทรา พิลาพันธุ์ หรือสาว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ถ.ขื่อนา ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ถูกสามีชื่อ โอ๋ อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยการรัดคอ จนขาดอากาศหายใจ แล้วคลุมด้วยถุงพลาสติกสีดำ จากนั้นเอาศพห่อด้วยผ้านวม และนำไปยัดใส่ถังพลาสติกสีดำ ขนาด 200 ลิตร จำนวน 2 ใบ แล้วนำไปทิ้งกลางสวนยางพารา เพื่อปิดบังอำพรางศพ โดยสภาพศพเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน หลังก่อเหตุเมื่อวันที่ 7พฤศจิกายน ปรากฏว่านายโอ๋ได้โทรศัพท์บอกพ่อของผู้ตาย (พ่อตา) ว่าได้ฆ่าลูกสาวพ่อแล้วให้ไปเอาศพได้ในสวนยาง จนกระทั่งได้บอกหลานชาย และหลานสาว (ลูกสาวของผู้ตายที่เกิดกับสามีเก่า) ออกตามหาจนกระทั่งพบศพดังกล่าว
หลังพบศพเจ้าหน้าที่ก็จัดชุดไล่ล่าฆาตรกรรายนี้ทันที และเชื่อว่าคนร้ายจะต้องไม่ลงมือเพียงลำพังอย่างแน่นอน จึงประสานด่านตรวจค้น เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดที่จะมุ่งหน้าเข้ากรุงฯ และด่านพรมแดน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ช่วยติดตาม เพราะเชื่อว่าคนร้ายจะต้องพยายามหาทางหนีกลับประเทศอย่างแน่นอน จนในที่สุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ทั้ง 2 คนดังกล่าว
โดย คณิตา สีทอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: