คดีหวยอลเวง 30 ล้านที่กาญจนบุรี มีลุ้นกันทุกชอต หลัง”ครูปรีชา ใคร่ครวญ” แจ้งความว่าลอตเตอรี่หาย และเป็นลอตเตอรี่ที่ถูกรางวันที่ 1 รวมรางวัล 30 ล้านบาท ที่ “ร.ต.ท.จรูญ วิมูล”นำไปขึ้นรางวัล จนถูกตั้งข้อหา”ลักทรัพย์ รับของโจร”และกลายเป็นคดีในศาลแพ่งไปแล้ว
ดูตามรูปคดีแล้วถอดพิมพ์มาจากคดีหวยอลเวง 6 ล้านที่ขอนแก่นเป๊ะๆ ที่คดีนั้นจบไปแล้วเมื่อ วันที่ 8 ก.ย.2552 ศาลศาลอุทธรณ์ภาค4 ตัดสินคดีให้ยกฟ้องลุงศิษย์ กิจพฤษ์ และ น.ส.ดรุณี กิจพฤษ์ บุตรสาว ชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่นที่ถูกรางวัลที่1 และรางวัลข้างเคียง งวดวันที16 พ.ค.2547 รวมเป็นเงิน 6,138,000 บาท แต่ถูกนางรสรินทร์ ศักดิ์นาราโรจน์ แม่ค้าขายสลากกินแบ่งในตลาดอ.มัญจาคีรีแจ้งความว่าลุงศิษย์ขโมยลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลไปจากแผงจนเป็นคดีขึ้นศาล
คดีหวยอลเวงขอนแก่นสู้กันในศาล 5 ปี จากศาลชั้นต้นที่ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ในระหว่างสู้คดีที่ลุงศิษย์และลูกสาวก็ถูกอายัดเงินในบัญชี กองเชียร์ก็แบ่งฝักแบ่งฝ่ายตามข้อสัญนิษฐานที่เชื่อ จนเป็นข่าวฮือฮาข้ามปี
สุดท้ายเมื่อลุงศิษย์ชนะคดีชั้นอุทธรณ์ เงินในบัญชีถูกนำออกมาใช้ได้ในวัย 81 (ตอนถูกลอตเตอรี่อายุ76) ในอีกไม่กี่ปีก็เสียชีวิตในสภาพคนอนาถา มีเงินติดตัว 2,500บาท ส่วนน.ส.ดรุณี ลูกสาวตกอยู่ในสภาพหนี้สินล้นพ้นตัวต้องคอยหลบลี้หนีหายจากการถูกตามทวงหนี้
เทียบคดีหวยกาญจนบุรี กับหวยขอนแก่น รูปการณ์ของคดีคล้ายคลึงกันมาก ทั้งรูปของคดีและตัวละครที่เกี่ยวข้อง ร.ต.ท.จรูญ หรือหมวดจรูญ ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกับลุงศิษย์ ฝ่ายครูปรีชาก็ไม่ต่างกับน.ส.รสรินทร์ แม่ค้าขายสลาก …น่าติดตามว่าจุดจบของคดีจะเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง?
คดีลุงศิษย์ลูกกล่าวหาว่าขโมยลอตเตอรี่จากแผง น.ส.รสรินทร์, หมวดจรูญถูกกล่าวหาว่าไปหยิบเอาลอตเตอรี่ที่ครูปรีชาทำหล่น ทั้งลุงศิษย์และหมวดจรูญก็นำลอตเตอรี่ในครอบครองไปขึ้นรางวัลและถูกแจ้งความ อายัดเงินในบัญชีเหมือนกัน ในข้อหาเดียวกัน”ลักทรัพย์ รับของโจร”
คดีลุงศิษย์ที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง และคู่กรณีไม่ยื่นฎีกา ที่วงในแว่วๆ ว่ามีการเคลียร์ภายในเพื่อให้จบๆ เพราะอีกฝ่ายยิ่งสู้ยิ่งแก่ และยิ่งเจ็บ อีกฝ่ายยิ่งสู้ยิ่งตีบตันเพราะหลักฐานที่มีอยู่ก็เป็นเพียง วนเวียนกับ “ข้อสัญนิษฐาน”
“ลอตเตอรี่”ถือว่าเป็นทรัพย์ แต่เป็น”ทรัพย์ที่ไม่มีทะเบียน”การปิดช่องโหว่ คอหวยหลายคนจึงเติมความหวังให้ตัวเองโดยการเซนต์ชื่อกำกับลอตเตอรี่ไว้ แม้จะไม่รู้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่แต่ก็กันเหนียวไว้เผื่ออนาคตจะมีเรื่องอลเวงตามมา
กรณีคดีลุงศิษย์ คนบ้านนอกชาวมัญจาคีรีที่ถูกหวย 6 ล้าน แกก็ไม่พูดอะไรให้วกวนบอกแค่ว่าไปซื้อที่แผงน.ส.รสรินทร์ ที่ท่ารถเมล์ในตลาดมัญจาคีรี ตอนตีห้ากว่าๆ ระหว่างรอรถจะเดินทางไปต่างจังหวัดพอรู้ว่าถูกรางวัลก็เอาไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ฝ่าย น.ส.รสรินทร์ ก็สู้ว่าเห็นลุงศิษย์หยิบกระดาษคล้ายลอตเตอรี่ใส่กระเป๋า พยานที่เป็นแม่ค้าฝั่งตรงข้ามก็ให้การคล้ายๆกับเจ้าของแผง
ทั้งหมดจึงเป็น”ข้อสัญนิษฐาน”ว่าลุงศิษย์ขโมยลอตเตอรี่ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนัก ทำให้คนถือไพ่เหนือกว่าเป็นลุงศิษย์ เพราะเป็นคนนำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่เป็นทรัพย์สินไม่มีทะเบียนไปขึ้นเงิน ซึ่งถือเป็น”ผู้ครอบครอง” …เมื่อเทียบกับคดีหวยเมืองกาญจน์ หมวดจรูญก็อยู่ในฐานะเดียวกับลุงศิษย์คือเป็นผู้ครอบครอง แม้จะถูกกล่าวหาว่า”ลักทรัพย์ รับของโจร”ก็ตาม
น่าจับตามองจุดจบคดีหวย 30 ล้าน เมืองกาญจน์ว่าจะมีอะไรพลิกผัน มีหลักฐานพิลึกพิลั่นมากไปกว่าคดีหวย 6 ล้านขอนแก่น แต่แนวโน้มคดีนี้เบื้องต้นหลังกองปราบฯลงมาทำคดีเอง ท่าจะไม่จบง่ายๆที่ต่างคนต่างไปแบบคดีที่ขอนแก่นซะแล้ว…
ฝ่ายครูปรีชาและเครือข่ายถูกไล่ต้อนทุกเม็ด และย่อมกระเทือนกับพยานที่จะเลือกพูดความจริง หรือเลือกที่จะโกหกซะขนาดนี้ เรื่องเงินรางวัล 30 ล้านอาจไม่ได้สู้แบบเต็มเหยียดในศาล แต่คดีพ่วงตามมาทั้งเรื่องแจ้งความเท็จ พยานเท็จฯลฯ….อาจตามมามากมาย
ถึงตอนนี้หมวดจรูญในฐานะผู้ครอบครองลอตเตอรี่เป็นฝ่ายได้เปรียบ ยิ่งเทียบกับคดีลุงศิษย์ที่จบแบบใสๆ…หมวดจรูญที่เป็นอดีตพนักงานสอบสวนเก่าย่อมอ่านทางทะลุ คงแค่รอวัน เวลา ให้จบๆ ไป….. แค่นั้นเอง.
