นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง จัดเทศกิจดูแลหน้าบ้านป้าทุบรถ และกวดขันไม่ให้มีการค้าขาย จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล ยืนยัน ไม่ท้อที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัย พร้อมชี้แจงทุกประเด็น
กรณีคุณป้าเจ้าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ที่ใช้ขวานกับเสียบ ทุบทำลายรถกระบะคันหนึ่งที่มาจอดขวางหน้าบ้าน แล้วไปเดินซื้อของในตลาดใกล้เคียง ลุกลามจนกลายเป็นการตรวจสอบตลาดในพื้นที่ดังกล่าว 5 แห่ง และพบว่าจัดตั้งแบบไม่ถูกต้องทั้งหมด ต้องยุติการขายชั่วคราวจนกว่าจะแก้ไขให้ถูกระเบียบหรือขออนุญาตให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ นางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ คุณป้าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ยังมีกรณีพิพาทกับเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยให้มีการจัดตั้งตลาดที่ไม่ถูกกฏหมาย กระทั่งศาลปกครองมีคำสั่งปรับผู้อำนวยการเขตประเวศ เป็นเงิน 5,000 บาท และกำชับให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ซึ่งนายธนะสิทธิ์ เปิดเผยว่า จะให้เจ้าหน้าที่เขตไปเป็นตัวแทนชำระค่าปรับ เนื่องจากตัวเองติดภารกิจ
ส่วนที่ศาลกำชับให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองเมื่อปี 2556 ที่ให้คุ้มครองชั่วคราวบ้านคุณป้าทุบรถ ยืนยันว่าขณะนี้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 อย่างเข้มงวด โดยส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยรอบบ้านหลังดังกล่าว และกวดขันไม่ให้มีผู้ค้ามาขายของ จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลที่ชัดเจน ส่วนกรณีที่ถูกผู้ว่าฯกทม.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จนถึงขั้นอาจถูกสอบวินัย ก็ยินดีให้ตรวจสอบและพร้อมให้ความร่วมมือ โดยจะชี้แจงทุกประเด็น รวมทั้งไม่รู้สึกท้อต่อการทำหน้าที่ข้าราชการ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งเกี่ยวกับการปฏบัติตามคำบังคับของศาลปกครอง ในคดีหมายเลขดำที่ ส. 1/ 2555 ระหว่างผู้ฟ้องคดี คือ นางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ กับพวกรวม 4 คน กับผู้ถูกฟ้องคดี คือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , ผู้อำนวยการเขตประเวศ , สำนักงานเขตประเวศ , กรุงเทพมหานคร กรณีได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายจากการจัดตั้งตลาด ซึ่งผู้ฟ้องได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ถูกฟ้องทั้ง 4 แล้ว แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา จึงมาร้องต่อศาลให้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างตลาด และให้ผู้ถูกฟ้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย
ศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้อง ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ดูแลไม่ให้ผู้ใดก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ฟ้องคดี จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่พบว่า ไม่มีการดำเนินการตามคำสั่งศาล จึงเรียกคู่กรณีมาให้ถ้อยคำไต่สวนเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา
ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม จึงมีคำสั่ง เตือนผู้ถูกฟ้องให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการคุ้มครองชั่วคราว รวมทั้งให้ผู้อำนวยการเขตประเวศ ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ชำระค่าปรับต่อศาลปกครอง เป็นเงินจำนวน 5,000 บาท รวมทั้งให้สำนักบังคับคดีปกครอง ติดตามการดำเนินการให้เป็นไปตามที่ศาลมีคำสั่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: