พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ซีอีโอบริษัทอิตาเลียนไทย ลักลอบล่าเสือดำในเขตรักษาพันธ์ุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มีหลักฐานเอาผิดแน่นหนา ยันเสือดำไม่ตายฟรีแน่นอน
โดยในวันนี้มีความคืบหน้า คือ ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะส่งรายงานการตรวจเศษดินในที่เกิดเหตุ ให้พนักงานสอบสวน หากพบคราบเลือดเสือดำที่เศษดิน จะชี้ได้ว่ามีการฆ่าเสือในบริเวณที่จับกุมนายเปรมชัยกับพวก ซึ่งจะทำให้สำนวนคดีแน่นหนารัดกุมมากขึ้น
ซึ่งก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯได้ทำรายงานยืนยันว่า กลุ่มนายเปรมชัยได้ร่วมกันล่าสัตว์ป่า โดยใช้ปืนที่ยึดได้เป็นอาวุธล่า และมีหลักฐานคือ ชิ้นส่วนเสือที่สามารถประกอบเป็นตัวเสือได้ จากนั้นมีการชำแหละด้วยมีดทำครัวและเขียง แม้นายเปรมชัยจะปฏิเสธไม่ได้ฆ่าเสือดำ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีผลต่อคดี เพราะพนักงานสอบสวนจะยึดตามหลักฐาน ที่ชัดเจนว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ
นอกจากนี้ ทางตำรวจยังทำหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากร เพื่อสอบถามข้อมูลการนำเข้าปืนคาบศิลาและงาช้างจากแอฟริกา ที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัย ว่ามีข้อมูลการนำเข้าก่อนปี 2535 หรือไม่ โดยคดีงาช้าง ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ระบุว่า สามารถให้ตำรวจดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องรับเป็นคดีพิเศษ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหา 2 ชุด คือ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เรียกนายเปรมชัย และนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ มารับทราบข้อหาร่วมกันติดสินบน เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากทนายว่าจะเดินทางมารับทราบข้อหาแน่นอน
อีกคดีคือที่องบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส.เรียกนางคณิตตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย และนางวันดี สมภูมิ มารับทราบข้อหาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย โดยนางวันดีเป็นผู้ยืนยันว่างาช้างทั้งสี่กิ่งที่ตรวจยึดได้ เป็นงานช้างไทยมีตั๋วรูปพรรณถูกต้อง ส่วนการจดแจ้งเป็นมีภรรยาของนายเปรมชัยเป็นผู้ดำเนินการ
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่าได้รายงานความคืบหน้าคดีนายเปรมชัยต่อนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ พร้อมขอบคุณกำลังใจจากประชาชนและมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และยืนยันว่าเสือดำไม่ตายฟรีแน่นอน
