เข้าฤดูล่าแมงมัน คือ ต้นพฤษภาคม 2561
พบว่า ดร.นิรันดร์ จิวะสันติการ ประธานมูลนิธิโยนก และอธิการบดีผู้ก่อตั้ง
โพสต์เรื่องแมงมันในเฟสบุ๊คไว้อย่างน่าสนใจ
ว่า
“เขาทำอะไรกัน นึกขึ้นได้ว่า ฝนแรกเขาจับแมงมันกัน
เลยขอแจมด้วย ได้แมงมัน 20-30 ตัวกลับบ้าน
ให้หมอตำน้ำพริกแมงมัน ว่ากันว่าราคาแพงถึงกิโลละสองพัน
กฏของดีมานด์ซัพพลาย เปลี่ยนอาชีพน่าจะดี”
ในภาพพบว่า อ.เถลิงศักดิ์ สุทธเขต
คณะบริหารธุรกิจ ม.เนชั่น ร่วมเก็บด้วย
นอกจากนี้ ยังพบว่า
อ.ธณกฤษ หมื่นก้อนแก้ว คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ ม.เนชั่น
ได้แชร์เรื่อง “นี่คือเมืองหลวงแมงมัน”
ในภาพพบแมงมันจำนวนมากพรั่งพรูออกจากรัง
อ้างอิง .. wikipedia.org
แมงมัน (อังกฤษ: subterranean ants) เป็นชื่อเรียกของมดชนิดหนึ่ง
ซึ่งทำหน้าที่เป็นมดราชินี สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้
และมีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Carebara sp. 1 of AMK
มดในตระกูลนี้มีการแบ่งวรรณะเป็น 6 วรรณะคือ
1. วรรณะราชินีที่เรียกว่าแมงมันแม่หรือแม่เพ้อ
2. วรรณะเจ้าหญิงทายาทที่เรียกว่า เต้งใหญ่
3. วรรณะสวามีที่เรียกว่า เต้งรอง
4. วรรณะมดงานเรียกว่า แย็บ
5. วรรณะทหารเรียกว่า แย็บใหญ่
6. วรรณะสร้างรังเรียกว่า มดแม่หมัน
แมงมันตัวเมีย
มีสีแดงคล้ำ ตัวใหญ่ มีรสมันนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหาร เรียกกันทั่วไปว่า “แมงมันแม่”
แมงมันตัวผู้
มีสีเหลือง ตัวเล็กกว่าแมงมันตัวเมีย
ไม่นิยมรับประทานเพราะมีรสขม เรียกกันทั่วไปว่า “แมงมันปู๊” หรือ “แมงมันคา”
แมงมันเป็นอาหารตามฤดูกาล
ที่หาได้ไม่ง่ายนัก จึงเป็นที่ต้องการของชุมชน ที่นิยมรับประทานทั้งไข่ และลูกแมงมันเฉพาะตัวเมีย
ดังนั้นแมงมัน จึงมีราคาดีพอสมควร เพราะนอกจากจะมีน้อยแล้วปีหนึ่ง ๆ
จะมีให้รับประทานเพียงครั้งเดียว ไข่แมงมันที่ เรียกว่า “แมงมันจ่อม” ขายเป็นช้อน (คาว) ๆ ละ 20 บาท
ลูกแมงมันที่คั่วแล้ว ใช้ถ้วยน้ำจิ้มเล็ก ๆ เป็นถ้วยตวงถ้วยละ 60 บาท
ถ้าเป็นขีด ๆ ละ 100 บาท
ส่วนแมงมันตัวผู้จะใช้เป็นเหยื่อตกเบ็ดปลาช่อนปลาสลิด
