นทท.เป็นผู้หญิงอายุเพียง 15 ปี ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดทั้งคนและห่วงยางไปติดเกาะกลางของน้ำตก ซึ่งญาติที่ล่องห่วงยางมาด้วยกัน ถูกกระแสน้ำพัดมาติดอีกฝั่งช่วยเหลือปลอดภัยก่อนแจ้งกู้ภัยให้การช่วยเหลือในหมู่ที่ 3 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
ที่นครนายก ภาพเหตุการณ์ขณะที่กู้ภัยกำลังเร่งหาทางช่วยเหลือ นทท.เป็นผู้หญิงอายุเพียง 15 ปี ที่เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว พัดทั้งคนและห่วงยางไปติดเกาะกลางของน้ำตก ซึ่งญาติที่ล่องห่วงยางมาด้วยกัน ถูกกระแสน้ำพัดมาติดอีกฝั่งช่วยเหลือปลอดภัยก่อนแจ้งกู้ภัยให้การช่วยเหลือ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในหมูที่ 3 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก กู้ภัยสว่างอริยะนครนายกจุดสาริกา ได้ใช้เชือกโรยตัวไปท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เพื่อไปผูกกับต้นไม้อีกฝั่งที่ นทท.ติดเกาะอยู่
จากการสอบถาม นางคณิต สุทธากร เจ้าของรีสอร์ทบอกว่า นทท.ทั้ง 2 คนได้ล่องห่วงยางมาจากอีกรีสอร์ทหนึ่งที่อยู่ใกล้กันโดยไม่สวมเสื้อชูชีพ และนทท.ที่เป็นผู้ชายได้ขึ้นมาจากน้ำได้ และมาบอกว่ายัง มีญาติที่เป็นผู้หญิงยังติดเกาะกลางน้ำอยู่อีกฝั่ง ตนจึงรีบประสานกู้ภัยที่มีการเตรียมความพร้อมไว้สำหรับช่วยเหลือ นทท.ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะจะมี นทท.มาเที่ยว และลงเล่นน้ำตกกันเป็นจำนวนมาก ต่อมาทราบชื่อ นางสาวสุภานัน ต่อมปัญญา อายุ 15 ปี ระหว่างกู้ภัยให้การช่วยเหลือญาติๆ ก็มายื่นให้กำลังใจ เพราะกระแสน้ำยังคงไหลเชี่ยวอยู่ แต่เมื่อช่วงเย็นที่เกิดเหตุไหลเชี่ยวกว่านี้ โดยญาติที่เกิดเหตุด้วยกันบอกว่า เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ตนเองกับญาติได้ล่องห่วงยางมากัน 2 คน โดยใช้ห่วงยางกันคนละอัน พอมาถึงที่เกิดเหตุกระแสน้ำไหลแรง ตนเองถูกพัดมาอีกฝั่ง และสามารถขึ้นมาบนตลิ่งได้ ส่วนอีกคนบอกว่ายื่นไม่ไหวเพราะกระแสน้ำไหลแรง จึงถูกน้ำพัดไปจนติดกับเกาะกลางโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ กู้ภัยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถช่วยเหลือ นทท.ข้ามกลับมาได้สำเร็จ ซึ่งทางเจ้าของรีสอร์ทฝากเตือน นทท.และผู้ปกครองว่า ให้สวมเสื้อชูชีพในการล่องห่วงยางทุกครั้ง และพยายามอย่าฝ่าฝืนคำเตือนของ จนท.โดยเด็ดขาด
