ที่นครนายก จากกรณี มีข้าราชการสาวเทศบาลเมืองนครนายก ร้องเรียนสื่อมวลชนเมื่อเดือน มี.ค. 65 ว่าถูกคุกคาม และกลั่นแกล้งให้ต้องรับโทษทางวินัย เนื่องจาก ตนได้ถูก นายศุภกฤษณ์ จัยสิทธิ์ นายกเทศบาลเมืองนครนายก ได้สั่งย้ายตนมาเป็นเลขาหน้าห้อง หลังจากนั้นได้พยายามตามจีบตามตื้อ จนรู้สึกถึงการถูกคุกคาม พอตนได้ปฏิเสธ ถูกกลับ ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากข้าราชการสาวได้กล่าวคำว่า ” หาความเป็นสุภาพบุรษไม่ได้เลย ” ต่อมาทางสื่อมวลชนได้พาข้าราชการสาว เข้าร้องเรียนกับ ผู้ว่าราชการฯ โดยทางผู้ว่าราชการฯจึงมีคำสั่งย้ายข้าราชการสาวไปปฏิบัติหน้าที่ ณ ศาลากลางจังหวัด เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตัวนายกฯ และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน จนเวลาผ่านมา 3 เดือนเรื่องยังเงียบอยู่
ล่าสุด มีหญิงสาวพนักงานอัตราจ้างของทางสาธารณสุข ประจำเทศบาลดังกล่าวเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพิ่มเติม ว่าหลังจากมีข่าวฉาวข้าราชการสาว ทางนายกฯ คนดังกล่าว ได้มาตามจีบตน โดยตนไม่ได้เล่นด้วย และพยายามปฏิเสธมาโดยตลอด จนล่าสุด นายก ฯ ได้ส่งแชทมาว่า อย่าให้รู้นะแอบไปเที่ยวกับหนุ่มๆ ถ้ารู้จะฆ่าให้ตายทั้งคู่ และยังได้มีการนำภาพของตนที่โพสต์ผ่านโลกโซเชียลส่งมาว่า “น้ำของพี่สีขาว แล้วน้ำของน้องนั้นทำไมสีชมพู” หญิงสาวดังกล่าวรู้สึกว่าตนนั้นไม่ปลอดภัยจึงเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทาง นายกฯต่อไป
ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. (9 พ.ค.65) นายศุภกฤษณ์ จัยสิทธิ์ นายกเทศบาลเมืองนครนายก ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน ชี้แจงกรณีข่าวฉาวดังกล่าว ทั้ง 2 กรณี โดย นายกฯ ได้ชี้แจงประเด็นแรก ข้าราชการสาว นั้น เรื่องได้เกิดจากการที่ตนได้ต่อว่าข้าราชการสาวในกลุ่มไลน์หน่วยงาน เรื่องงาน จนข้าราชการสาวจึงได้ตอบกลับมาว่า ” หาความเป็นสุภาพบุรษไม่ได้เลย ” ตนจึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เรื่องต่อว่าผู้บังคับบัญชา ในส่วนเรื่องตามจีบนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ในกรณีที่ 2 พนักงานอัตราจ้างนั้น เรื่องการข่มขู่ ตนได้กล่าวข้อความลอยๆ ไปบนกลุ่มไลน์ซึ่งมีคนอยู่ในกลุ่มหลายคนโดยไม่ได้เอ่ยชื่อใคร และไม่ได้มีการคุกคามทางเพศแต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่าตนได้ตามจีบพนักงานสาวดังกล่าวจริง และยังได้กล่าวว่าในส่วนเรื่องมีการเสนอเงินทองให้กันนั้น ทางพนักงานสาวดังกล่าวเคยขอเงินตน และตนก็ได้ให้ไป แต่ตนก็มองว่าเป็นเรื่องปกติของเจ้านายและลูกน้อง เพราะตนก็ให้เงินพนักงานในเทศบาลของตนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจการทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว พร้อมยังได้กล่าวว่าตนนั้นโสด มีการหย่าร้างกับภรรยามาตั้งแต่ปี 2540 แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่ตนชอบใครแล้วจะจีบ ซึ่งตนไม่ได้ทำอะไรผิด.
