ที่นครนายก เมื่อเวลา 07.00 น. (3 ก.ย. 65) เพจเรื่องจริงนครนายก ไลฟ์สด ตามหาผู้ปกครองเด็กอายุประมาณ 2-3 ขวบ หลงอยู่บริเวณปั้ม ปตท.พรหมณี
โดยในไลฟ์สดแอดมินเพจเรื่องจริงนครนายก ได้สอบถามข้อมูลตัวเด็กว่าชื่ออะไร ทางน้องได้ตอบว่าชื่อเก้า พ่อชื่ออาม แม่ชื่อแต๋น ซึ่งน้องเก้าได้บอกว่าแม่มาเข้าห้องน้ำ แล้วแม่ก็กลับไปเลย ซึ่งทางแอดมินเพจเรื่องจริงนครนายก พยายามประสานทางกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าช่วยเหลือ และได้ไลฟ์สดเพื่อตามหาผู้ปกครองหรือคนรู้จักน้องเก้า ซึ่งมีแฟนเพจต่างเข้ามาคอมเม้นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะตั้งคำถามว่าลืมเด็กได้ยังไง ทำไมถึงลืมได้ และได้ช่วยกันแชร์ไลฟ์กันเป็นจำนวนกว่า 3 พันครั้งภายในเวลา 1 ชม. ซึ่งเพจเรื่องจริงนครนายก มีผู้ติดตามถึง 2 แสน 4 หมื่น คน เป็นเพจผู้สื่อข่าวท้องถิ่นในพื้นที่ เป็นเพจที่ลงข้อมูลข่าวสารต่างๆภายในจังหวัด รวมถึงทำงานด้านจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม ร่วมกับมูลนิธิองค์กรทำดี ของ ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี (ดารานักแสดง)
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สอบถาม น.ส.ชิดชนก ทิวแก้ว พนักงาน 7-11 เล่าว่าได้พบตัวเด็กยืนร้องไห้อยู่บริเวณหน้าตู้ ATM ภายในปั้มน้ำมัน จึงได้พาตัวน้องเก้าเข้าไปนั่งภายในร้าน และได้หาขนม ของเล่น มาให้น้องเก้า เพื่อไม่ให้น้องเกิดความกลัว และร้องไห้ ซึ่งขณะนั้นทางแอดมินเพจเรื่องจริงนครนายก ได้เข้ามาพบพอดี จึงได้ไลฟ์สด ตามหาผู้ปกครอง จนมีคนแชร์กันออกไปเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นจบไลฟ์สดไปไม่นาน ทางผู้ปกครองน้องเก้าได้เดินทางมารับเวลาประมาณ 08.30 น.
ผู้สื่อข่าวได้ขอดูกล้องวงจรปิดของทางปั้มน้ำมัน พบว่าแม่ของน้องเก้าได้ลงไปเข้าห้องน้ำ โดยน้องเก้าได้อยู่บริเวณเบาะหลังของรถ หลังจากที่แม่เดินเข้าห้องน้ำไปไม่นาน น้องเก้าได้เปิดประตูแล้ววิ่งลงไปที่หน้า 7-11 ก่อนจะวิ่งย้อนกลับมาที่รถอีกรอบแต่กลับวิ่งไปไม่ถึงรถ ซึ่งรถก็ยังจอดอยู่ที่เดิม แต่ด้วยน้องเก้าคงจะจำที่จอดรถของตัวเองไม่ได้ จึงเดินย้อนกลับมายืนร้องไห้ อยู่บริเวณหน้าตู้ ATM จนพนักงาน 7-11 ได้มาพบและพาน้องเก้าเข้าไปใน 7-11 หลังจากนั้นแม่น้องเก้าได้เดินออกจากห้องน้ำมา ก็ได้ขับรถออกไปเลย โดยที่ไม่ทราบว่าน้องเก้าได้ลงมาจากรถแล้ว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถาม น.ส.ลลิตา มุ่งหมาย อายุ 27 ปี แม่ของน้องเก้า ทางคุณลลิตาได้เล่าว่า น้องเก้าอายุ 5 ขวบ ช่วงเกิดเหตุตนได้มาซื้อของที่ 7-11 จากนั้นได้ไปจอดรถที่หน้าห้องน้ำของปั้ม ซึ่งน้องเก้าได้นอนเล่นโทรศัพท์อยู่เบาะหลังของรถ ซึ่งตนก็ได้บอกน้องเก้าก่อนลงรถว่า อย่าลงไปไหนนะแม่ไปเข้าห้องห้องแปปเดียว ซึ่งหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็ได้กลับทันที เพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์อยู่ด้านเบาะหลังก็คิดว่าน้องเก้ายังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ จนถึงไฟแดงแยกหนองแสนตอห่างจากปั้มประมาณ 2 ก.ม. ตนได้เรียกน้องเก้า แต่น้องไม่ตอบ ตนก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงดูโทรศัพท์เพลิน จนถึงบ้านตนก็ได้ลงรถไปทำกับข้าว เพราะโดยนิสัยปกติของน้องเก้าเวลาถึงบ้านจะชอบไม่ลงรถ จะดูโทรศัพท์ อยู่แบบนั้นอีกสักประมาณ 10 นาที ถึงจะลงมา ซึ่งตนก็ไม่ได้ล็อครถ เพราะคิดว่าเดี๋ยวน้องเก้าก็ลงมา
จนทำกับข้าวเสร็จได้เดินออกมาเรียกน้องเก้าเพื่อให้มากินข้าว แต่ก็ไม่เจอ พอไปดูในรถก็เห็นแต่โทรศัพท์วางทิ้งอยู่ จึงได้พยายามตามหาแถวบ้านเพราะคิดว่าวิ่งไปเล่นบ้านข้างๆเพราะน้องเก้าชอบไป แต่ก็ไม่พบ จนได้นึกขึ้นได้ว่าหรือน้องเก้าจะวิ่งลงรถไปที่ปั้มน้ำมัน จึงรีบเดินทางมาที่ปั้มน้ำมัน แต่พอออกรถมาไม่นานเพื่อก็ได้โทรมาถามว่าลืมน้องเก้าไว้ที่ปั้มน้ำมันหรือป่าว เห็นในไลฟ์สดเพจเรื่องจริงนครนายก ตนจึงรีบเดินทางไปรับน้องเก้าทันที โดยทางคุณลลิตา ฝากขอบคุณพนักงาน 7-11 ที่ช่วยดูแลน้องเก้า และทางเพจเรื่องจริงนครนายก ที่ได้ไลฟ์สดตามหา ซึ่งต้องฝากเตือนผู้ปกครองไว้เป็นอุทาหรณ์ ในการที่ปล่อยให้เด็กอยู่ในรถเพียงลำพัง.
