ที่นครนายก เมื่อเวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บริเวณหมู่บ้านเทพประทาน ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก จึงรุดเข้าตรวจสอบในพื้นที่ พบบ้านเรือนประชาชน หมู่ 4 และหมู่ 14 กำลังเร่งกันตักทรายใส่กระสอบเพื่อนำไปกั้นน้ำบริเวณบ้านพักอาศัยของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้าน ในพื้นที่ ต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ หนักที่สุดเท่าที่เคยเจอมาซึ่งมีคุณยายอายุ 74 ปี ได้บอกว่าตนอยู่หมู่บ้านตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้านมากกว่า 50 ปี ก็ไม่เคยเจอสถานการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงขนาดนี้ ซึ่งปริมาณน้ำที่ทะลักเข้าข้านเรือนของชาวบ้านนั้น มาจากเส้นทางหลักคือฝ่ายกักเก็บน้ำของโรงเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งฝ่ายแห่งนี้ ได้กักเก็บน้ำไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชนใช้ในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งในช่วง เดือนที่ผ่านมา จ.นครนายก ได้มีฝนตกมาเป็นระยะ จึงทำให้น้ำที่ฝ่ายของ โรงเรียนนายร้อย จปร. ได้มีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก เมื่อพายุโนรู เข้ามา ทำให้ฝนตกลงมาตลอดทั้งวันทั้งคืน จึงทำให้น้ำนั้นล้นสปิลเวย์ ของฝ่ายเก็บน้ำออกมาท่วมภายในโรงเรียนนายร้อย จปร. เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เมื่อน้ำจากโรงเรียนนายร้อย จปร. ระบายลงมาจึงทำให้น้ำเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตั้งแต่ช่วงเวลา 1 ทุ่มที่ผ่านมา
และยังคงเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบริเวณฝ่ายเก็บน้ำของโรงเรียนนายร้อย จปร. ก็ยังคงมีปริมาณน้ำจำนวนมากที่ยังล้นสปิลเวย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับน้ำของบ้านเรือนประชาชนจะลดลงได้ก็ต่อเมื่อน้ำบริเวณฝ่ายเก็บน้ำนั้นหยุดระบายออกมา ซึ่งฝนได้หยุดตั้งแต่ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา และไม่ได้ตกลงมาเพิ่ม ซึ่งชาวบ้านาก็มีความหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ ซึ่งทาง อบต.พรหมณี เร่งดำเนินการขนทรายมาเพิ่มให้ชาวบ้านอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้นำใส่กระสอบไปกั้นน้ำบริเวณบ้านเรือนของตัวเองเพื่อบรรเทาความเสียหายเบื้องต้น ซึ่งทาง อบต.จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ต่อไป.
