ภาพเหตุการณ์ กลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่น ก่อเหตุรุมทำร้ายนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่น้ำตก จากนั้นได้ขับรถไล่ทำร้ายต่อ กว่า 20 กม. จนได้ ก่อเหตุรุมทำร้ายอีกรอบ และได้ปาก้อนหินใส่ และทุบรถ ก่อนจะขับรถผู้เสียหายจากจุดเกิดเหตุ ไปทิ้งข้างทาง
ที่นครนายก เมื่อเวลา 16.30 น. (10 มิ.ย. 66) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุกลุ่มวัยรุ่น ทะเลาะวิวาทกันบนถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณ ยูเทรินหน้าการประปาส่วนภูมิภาค จ.นครนายก
เจ้าหน้าที่รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งฮอนด้า สีเหลืองหมายเลขทะเบียน บศ 8404 กทม. จอดอยู่บริเวณริมถนน แต่ไม่พบตัวเจ้าของรถ และผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อตรวจสอบภายในรถ พบว่ามีรอยถูกทุบ กระจกแตกรอบคัน ประตูรถฝั่งคนขับและฝั่งด้านข้างคนขับหัก และมีก้อนหินจำนวนมากตกอยู่ภายในรถ ซึ่งในรถยังมีทรัพย์สินต่างๆอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียด โดยให้ผู้สื่อข่าวได้ช่วยยืนดูเป็นพยาน และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเกรงว่าจะมีทรัพย์สินภายในรถนั้นสูญหาย เมื่อตรวจสอบภายในรถอย่างละเอียดไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายใดๆ ซึ่งระหว่างตรวจค้นอยู่นั้น ก็ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิงอีก 1 คน ได้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ โดยชายทั้ง 2 คน ได้รับบาดเจ็บ 1 คนมีบาดแผลถูกของมีคมตามร่างกาย และอีก 1 คนนั้นบริเวณศีรษะ ปูดบวม เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งไปรักษาต่อที่ รพ.นครนายก
ผู้สื่อข่าวสอบถาม น้องเอ (นามสมมุติ) เจ้าของรถ ถึงเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งน้องเอ นั้นได้เล่าว่า ตน และเพื่อน เดินทางมาจาก กทม. เพื่อมาเที่ยวน้ำตกสวนลุงเล็ก ที่ จ.นครนายก ระหว่างที่ตน และเพื่อนกำลังเล่นน้ำกันอยู่ ก็ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มกว่า 20 คน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน ได้เข้ามารุมทำร้ายซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าถูกทำร้ายเพราะอะไร หลังจากที่ตนโดนรุมทำร้ายแล้วจึงได้รีบเดินทางกลับเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แต่เมื่อตนขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพื่อที่จะเดินทางกลับ กทม. อยู่ๆก็มีกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเดิมนั้น วิ่งออกมากลางถนนเพื่อที่จะขวางรถตน แต่ตนไม่ได้จอด และได้เร่งเครื่องรถหนีทันที จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้ขับรถไล่ตามมา จำนวน 3-4 คัน โดยมีการพยายามที่จะปาดหน้าเพื่อที่จะให้รถตนนั้นหยุด ตลอดทาง ซึ่งตนนั้นได้ขับหนีมาประมาณ 20 กม. เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ที่มีการถล่มรถตนนั้น เป็นช่วงที่ตนจะยูเทรินกลับรถ แต่รถนั้นเกิดดับ ตน และเพื่อนในรถจึงได้รีบลงจากรถ และวิ่งหนีทันที แต่ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุบางคนก็ได้วิ่งไล่ตามมาทำร้ายต่อ ซึ่งตนเองนั้นได้หนีเข้าไปหลบบริเวณบ้านคนที่อยู่แถวจุดเกิดเหตุ โดยตนเองนั้นถูกขวดตีที่หัว จนหัวปูดบวม แต่เพื่อนผู้ชายอีก 1 คน และผู้หญิงอีก 1 คน ได้วิ่งกันไปคนละทาง ไม่รู้ว่าไปทางไหน
ซึ่งระหว่างผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับน้องเอ (นามสมมุติ) เจ้าของรถ อยู่นั้น เพื่อนของน้องเอ อีก 2 คน ผู้ชายชื่อ น้อง บี (นามสมมุติ) และผู้หญิง น้อง ซี (นามสมมุติ) ที่ได้วิ่งหนีไปคนละทาง ก็ได้เดินกลับมา ที่จุดเกิดเหตุ ซึ่ง น้องบี (ผู้ชาย) มีบาดแผลถูกของมีคมบาด ตามร่างกาย หลายจุด ส่วนน้องซี (ผู้หญิง) นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น้องบี (ผู้ชาย) ว่า บาดแผลตามร่างกายไปโดนอะไรมา น้องบีเล่าว่า เมื่อตนลงจากรถก็ได้วิ่งหนีไปในบ้านคน แต่บ้านนั้นมีรั้วลวดหนาม ตนจึงพยายามจะตะปีนรั้วลวดหนาม แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นได้วิ่งตามมาทัน และได้เอาก้อนหินปาใส่คอตน และได้เอามีดพกฟันใส่ตน ก่อนจะวิ่งหนีกลับไป
ในส่วนน้อง ซี (ผู้หญิง) บอกว่าตนไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่จะถูกยิง เนื่องจากตนนั้นวิ่งเข้าไปหลบในบ้านคนซึ่งอยู่ริมถนนตรงจุดเกิดเหตุพอดี ก็ได้มีผู้หญิง 2 คน กลุ่มผู้ก่อเหตุ นั้นได้วิ่งตามเข้ามา ซึ่งพยายามจะให้ตนออกมาจากบ้านที่ตนหลบอยู่ แต่เจ้าของบ้านได้พยายามช่วยยืนขวางเอาไว้ให้ ซึ่งระหว่างที่ผู้หญิง 2 คนกำลังคุยกับตน และเจ้าของบ้านอยู่ ก็ได้มีผู้ชายอีก 1 คนวิ่งตามเข้ามา และพยายามจะชักปืนที่เอวเพื่อยิงตน แต่ผู้หญิง 2 คน แรกนั้นได้ห้ามเอาไว้ก่อน จากนั้นทั้งหมดก็ได้วิ่งหนีไปขึ้นรถกลับไป
ซึ่งต่อมาผู้สื่อข่าวได้พยายามหาภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ จนสามารถเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่ช่วงที่ผู้เสียหายวิ่งหนีลงจากรถ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุบางส่วนก็ได้วิ่งไล่ตามทำร้ายผู้เสียหาย ทั้ง 3 คน ไปคนละทิศละทาง จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุบางส่วนก็ได้พยายาม ทุบรถ ปาก้อนหินใส่ ถีบประตูรถ และพยายามจะหักประตูรถของผู้เสียหาย ซึ่งก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะหลบหนี ก็ได้ขับรถของผู้เสียหายนั้นไปไกลกว่า 500 เมตร จากจุดเกิดเหตุ ก่อนพุ่งลงไปจอดทิ้งบริเวณริมถนน จากนั้นก็ได้หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำรถของผู้เสียหายไปเก็บรักษาไว้ช่วยคราวที่ สภ.เมืองนครนายก เพื่อรอผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดออกจาก รพ. และมาให้ปากคำอีกครั้ง เพื่อที่จะติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งหลังจากที่ผู้เสียหายได้ออกจาก รพ. ก็ได้เดินทางมาแจ้งความต่อที่ สภ.เมืองนครนายก โดยผู้เสียหายนั้นยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า จะเร่งตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจากก่อเหตุอุกอาจมากเกินไป ซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่กลางเทศบาลเมืองแบบนี้ ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชน และผู้ใช้รถบนท้องถนนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง อยู่เป็นจำนวนมาก ยังกล้าก่อเหตุ ขนาดนี้ หากประชาชนโดนลูกหลงไปด้วยจะรับผิดชอบไหวมั้ย ซึ่งหากกลุ่มผู้ก่อเหตุเห็นข่าวแล้ว ให้เข้ามามอบตัวได้ทันที ที่ สภ.เมืองนครนายก ซึ่งไม่สามารถหนีพ้นแน่นอนเพราะคลิปต่างๆเห็นทั้งรถ และหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: