ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เผย ออกหมายจับมือถล่มป้อม ชรบ.ลำพะยา แล้ว 2 ราย
เมื่อวันที่ 11 พย 62 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า จากที่ได้ทำงานมาเกือบ 1 อาทิตย์ ก็มีพยานหลักฐานว่าเป็นกลุ่มคนร้าย 2 กลุ่ม คือกลุ่มของปัตตานี และกลุ่มของยะลา ซึ่งสองกลุ่มนี้ได้มีการคัดตัวออกมาที่มีการออกหมายจับในคดีต่างๆ ที่ผ่านมา แต่จะพิสูจน์ทราบว่าใครมาร่วมปฎิบัติการในที่เกิดเหตุบ้าง ส่วนหนึ่งก็เป็นพยานหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์
ข่าวน่าสนใจ:
- 'โครงการสร้างโอกาสสานฝันเด็กและเยาวชน จ.ระยอง' มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษา
- ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงผลการปฎิบัติการจับกุมยาเสพติด-อาชญากรรม ในพื้นที่จังหวัดยะลา
- ตม.ภูเก็ต รวบหญิงต่างชาติผิวสี เสนอขายบริการสร้างภาพลักษณ์เสื่อมเสียท่องเที่ยวภูเก็ต
- ยิงทิ้งหนุ่มเมียนมาร์ 2 ศพ ริมชายแดนสวนผึ้ง ตำรวจตามรวบได้ที่ด่านแม่สอด
“วันนี้ที่สามารถยืนยันตัวคนร้ายที่เข้ามาปฎิบัติการได้แล้วจำนวน 2 ราย และจะมีการขอหมายจับในวันนี้ ซึ่งเป็นผลจากการตรวจดีเอ็นเอ ที่จะปฎิเสธไม่ได้ และเป็นผู้ต้องหาที่เคยมีหมายจับมาแล้ว จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุที่มีรอยเลือดเยอะมาก หลังจากที่ตัดรอยเลือดของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ออกไป 15 คน ก็ยังเหลือรอยเลือดอีก 5 คน ที่ยังระบุตัวไม่ได้ 5 คนที่ไม่ใช่คนเจ็บและคนเสียชีวิต ก็เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ และ 1 ใน 5 ที่พิสูจน์ทราบได้ ก็เป็นคนที่จะออกหมายจับในวันนี้ทั้งสองคน คือ นายซะอุดี ติงอูเซ็ง มีหมายจับในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่พบเลือดในที่เกิดเหตุ และนายนัสรูเลาะห์ สะมะ มีหมายจับในคดีความมั่นคง ที่ อ.กาบัง และ อ.ยะหา จ.ยะลา ที่พบดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ และยังมีดีเอ็นเอที่ตรวจสอบได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่” พลตำรวจโท รณศิลป์ กล่าว
ผบช.ภ.9 กล่าวอีกว่า สำหรับปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ สามารถเชื่อมโยงได้หลายคดีเช่น คดีเผาบริษัทชินวร เมื่อปี 61 คดียิงจุดตรวจสามฝ่ายที่กรงปินัง คดีเผาการไฟฟ้าที่กาบัง ซึ่งผู้ต้องหาเหล่านี้หลบหนีอยู่ตามป่าเขา หรือประเทศเพื่อนบ้าน หลังก่อเหตุ ก่อนที่จะรวมตัวกันกลับมาก่อเหตุ และการที่กลุ่มเหล่านี้จะก่อเหตุในพื้นที่ได้ ก็ต้องมีแนวร่วมในพื้นที่ให้ข้อมูล ซึ่งกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: