ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ประชุมเครียด กรณีคนร้ายยิง 15 ชรบ.ลำพะยา ระบุข่าวโซเชียล ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ลุยเองเป็น FAKENEWS เผยให้จนท.ในพื้นที่ดำเนินการ พร้อมปฎิบัติติดตามจับกุมคนร้าย
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 62 เวลา 10.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบยิง ชรบ. เสียชีวิต15ราย บาดเจ็บ 5 ราย ที่ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 ที่ผ่านมา โดยมี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค4 พลตำรวจโทรณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม โดยในที่ประชุม ได้มีการบรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งความคืบหน้าทางด้านคดี ซึ่ง ผบ.ทบ. ให้ความสนใจถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ รวมทั้งการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ในที่ประชุม ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยชุมชนเป้าหมายอ่อนแอในพื้นที่ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ รวมทั้งนำข้อห่วงใยของท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการสับเปลี่ยนกำลัง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จึงมามอบนโยบายในการปฎิบัติหน้าที่ ในส่วนที่มีความสำคัญคือการสับเปลี่ยนกำลังทหารพราน ที่จะมีการสับเปลี่ยนกำลังทหารพรานทั้งกรม ในเดือนเมษายน 63 นี้ รวมทั้งการสับเปลี่ยนกองกำลังชายแดน เพื่อให้กำลังมีความตื่นตัว ซึ่งจะเริ่มปฎิบัติในเดือน เมษายน 63 นี้
“ในส่วนกรณีเหตุคนร้ายโจมตีป้อม ชรบ.ลำพะยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 รายนั้น ตนเองขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่าน หลายวันที่ไม่ได้เดินทางลงมา เพราะรู้ว่าทุกฝ่ายล้วนแต่พยายามติดตามผู้ก่อเหตุ ซึ่งปัจจุบันได้รับรายงานจากท่านแม่ทัพภาค 4 และฝ่ายกองกำลังตำรวจ ว่า ได้ตัวผู้ต้องสงสัยหลายคน มีหลักฐานหลายๆอย่าง ตนเองได้เน้นย้ำไปว่าขั้นตอนการปฎิบัติต่างๆ ให้ปฎิบัติตามกฎหมาย และได้รับการจับจ้องจากผู้ที่หวังดี และไม่หวังดีกับหน่วยงานด้านความมั่นคง พยายามใช้ช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางโซเชียลก็ตาม ที่ก่อนตนจะเดินทางลงพื้นที่ ก็มีสื่อโซเชียลออกไปว่า ตนจะลงมาทำนู๊นทำนี่ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ตนเองโดนเรื่อง Fakenews มาโดยตลอด ผู้ที่ทำงานคือคนนพื้นที่ ตนเองเป็นเพียงแค่มอบนโยบาย และคิดในด้านยุทธศาสตร์การดำเนินการอย่างไรในพื้นที่ ตนเองขอร้องไปยังผู้ที่แสดงความคิดเห็นต่างๆ ขอให้เข้าใจผู้ที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ ที่มีความกดดัน มีสภาวแวดล้อมที่ไม่ปกติ” ผบ.ทบ. กล่าว
พลเอกอภิรัชต์ ยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ใหญ่ๆ จะพบว่าฝ่ายตรงข้ามมีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย ตนเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีการดำเนินกลยุทธปฎิบัติต่อเป้าหมายได้ มีการเตรียมการวางแผนมาอย่างดี และเลือกเป้าหมายแล้ว ส่วนแนวความคิดว่าจะเป็นการตอบโต้ทางการทหารหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบแนวความคิดของพวกเขา การก่อเหตุล่าสุดสร้างความสะเทือนขวัญ แต่ไม่ได้ทำให้เจ้าหน้าทีท้อถอย ในการปฎิบัติหน้าที่ต่อ ส่วนการพูดคุยสันติภาพนั้นก็พูดคุยกันไป ส่วนของกองทัพบกก็ได้เตรียมการของกองทัพบก ใช้ความพยายามทุกอย่างกัยประเทศเพื่อนบ้านในฐานะเป็นมิตรกันมานาน มีการพูดคุยกันในหลายๆ ระดับ ทั้งระดับรัฐบาล มีการพูดคุยทุกระดับ
“ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้น ก็เหมือนอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ในประเทศไทย หรือเป็นปัญหาภายในประเทศ ไม่ใช่ปัญหาของต่างชาติ สิ่งนี้ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า มีหลายกลุ่มองค์กรที่พยายาม ทำให้เป็นปัญหาระดับชาติ ซึ่งโดยความเป็นจริงเราจะเห็นว่า พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ชาวมุสลิมในหลายๆ ประเทศ ในส่วนความเป็นห่วงของตนในขณะนี้ ก็ไม่ได้ห่วงเรื่องใดมากนัก ก็เพียงแต่การควบคุมการทำงานต่างๆนั้นจะต้องทำงานเป็นระบบ ผิดต้องลงโทษ ผู้บังคับบัญชาต้องลงไปดูแล เรื่องนี้สำคัญที่สุด พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สนาม ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ทุกคนต้องตั้งใจ” พลเอกอภิรัชต์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: