กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีเหตุปล้นรถยนต์ที่สะบ้าย้อย เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เรื่องยาเสพติด
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับแจ้งข่าวว่าเกิดเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ปล้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ แบบ 4 ประตู สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของนายจุติพันธ์ กำเนิดแก้ว เหตุเกิดเมื่อ 21พฤศจิกายน 61 เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลทุ่งพอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งภายหลังรับแจ้งเหตุ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และต่อมาเมื่อ 21 พฤศจิกายน 61 เวลา 06.00 น. กองร้อยทหารพรานที่ 4308 ร่วมกับ ชุดคุ้มครองตำบลบางโกระ (ชคต.บางโกระ) ซึ่งตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ ชคต.บางโกระ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี สามารถสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน และควบคุมบุคคลต้องสงสัย 4 คน พร้อมอาวุธและเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า 1 ใน 2 รถยนต์ที่สกัดจับได้ เป็นรถยนต์ที่คนร้ายปล้นแย่งชิงมาจากพื้นที่ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแจ้งความคืบหน้าให้ทราบว่า ผลจากการซักถามผู้ถูกควบคุมตัวในเบื้องต้นทราบว่าเป็นความขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์เรื่องยาเสพติด ไม่ได้เป็นการปล้นเพื่อชิงทรัพย์แต่อย่างใด ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป โดย 1 ใน 4 ของผู้ที่ถูกควบคุมตัวคือ นายอันวา สุหลง ทราบว่าเป็นอาสาสมัครทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 49 จากการตรวจสอบกับหน่วยต้นสังกัดพบว่าได้ปลดออกจากราชการไปแล้วตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 61 เนื่องจากมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด พร้อมกับได้เน้นย้ำไปยังทุกหน่วยให้ตรวจสอบและกำกับดูแลวินัยของกำลังพลอย่างใกล้ชิด หากตรวจพบมีกำลังพลกระทำความผิดที่ขัดกับนโยบายและผิดกฎหมายถือเป็นความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นด้วย โดยให้ลงทัณฑ์ทางวินัยโดยไม่ละเว้น เพราะนอกจากเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับหน่วยแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ขัดกับนโยบายภายใต้ยุทธศาสตร์คนดีของ มทภ.4” พันเอกปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผลจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลบางโกระ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ภายใต้การสนับสนุนจากกองร้อยทหารพรานที่ 4308 (ร้อย ทพ.4308) และแหล่งข่าวภาคประชาชน ถือเป็นแบบอย่างที่ดี ในการบูรณาการกำลังร่วมกันเข้าปฏิบัติงานภายใต้แนวคิดยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้สามารถสกัดจับรถยนต์และบุคคลต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติไว้เป็นแบบอย่างที่ดีสืบไป พร้อมกับขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว โดยหากพบเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายสามารถแจ้งผ่านตู้ ปณ.41 ปณจ.ยะลา หรือโทรสายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชม.
