นายซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 2 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ส.ส.ซูการ์โน มะทา ถึงกรณี พรบ.คู่ชีวิต ที่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมาว่า
“ไม่สามารถที่จะรับหลักการร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับได้ เพราะขัดต่อหลักการศาสนาอิสลาม และพระมหาคัมภีร์อันกุรอาน ซึ่งเป็นธรรมนูญแห่งชีวิตของประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลาม ที่ต้องยึดมั่นและปฎิบัติตาม”
“ตามหลักการศาสนาอิสลามจะต้องยึดถือ ยึดมั่นต่อพระมหาคัมภีร์อันกุรอานเป็นธรรมนูญสูงสุด แต่ในฐานะที่เราเป็นประชาชนที่อยู่ในประเทศไทย และมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสูงสุดแห่งรัฐ ได้เขียนในอำนาจหน้าที่ว่า ให้พี่น้องประชาชนไทยทุกศาสนาสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ เมื่อรัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมาย พ.ร.บ.คู่ชีวิต และแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสมรสของพรรคก้าวไกล ผมเข้าใจความต้องการของกลุ่ม LGBT ว่าเป้าหมายของท่านคืออะไร แต่ในมุมของประชาชนมุสลิมแล้ว สิ่งใดก็ตามที่เป็นสิ่งต้องห้ามในหลักการศาสนาที่ระบุไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ได้ปฏิบัติกันมายาวนานกว่าพันปีมาแล้วนั้น ไม่สามารถที่จะฝ่าฝืนได้ เพราะนั่นคือพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าและบรมมาศาสดามูฮัมหมัดที่ชี้แนวทางถูกต้องให้แก่เรา”
“เรากำลังพยายามจะแก้กฏหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้กลุ่ม LGBT ได้รับสิทธิในเรื่องการสมรสเท่าเทียมกัน แต่เรากำลังจะทำลายจารีตประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามที่ยึดถือปฏิบัติตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการแก้ไขทุกมาตราที่เกี่ยวกับคู่สมรสจากชายกับหญิง เป็นไม่ระบุเพศ ซึ่งข้อห่วงใยนี้เรามีความเป็นห่วงว่า เนื่องจากทางรัฐบาลว่าได้ออกสื่อว่ารับฟังความเห็นแล้วผู้นำศาสนาหลายศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านกล่าวว่า ผู้นำศาสนาอิสลามกล่าวว่าขัดต่อศาสนาอิสลาม แต่สามารถรับหลักการเพื่อให้กฎหมายดำเนินการต่อไปได้ ผมอยากจะบอกว่าเรื่องของศาสนาไม่ใช่เรื่องเล่น ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโกหกในสภา”
“ตามหลักนิติธรรมเรากำลังจะแก้กฎหมายเพื่อคนคนหนึ่ง แต่ไปทำลายความรู้สึกของพี่น้องประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง ผมเชื่อว่ามีพี่น้องประชาชนไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด มีความรู้สึกลำบากใจ หากรัฐสภาเห็นชอบกับกฎหมายนี้ เพราะมันจะกระทบกับวิถีชีวิตและความรู้สึกอย่างมาก”
“เรากำลังฝืนธรรมชาติ ธรรมชาติสร้างให้มีเพศชายเพศหญิง และสร้างให้มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่สุด จึงอยากเรียนไปยังเพื่อนสมาชิกที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการว่า ท่านต้องคิดให้รอบคอบว่าจะทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับคนส่วนใหญ่อีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่ออกโดยรัฐบาล”
“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียหายกับกลุ่ม LGBT ฝากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและผู้ที่จะเป็นกรรมาธิการ ท่านต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของการปกครองประเทศ ยังมีบทเฉพาะกาลได้ แต่ถ้าออกกฎหมายคู่ชีวิตหรือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่จะบังคับใช้กับคนไทยทั้งประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามไม่ได้ ดังนั้นผมอยากให้ท่านมีข้อยกเว้นเหมือนกับรัฐธรรมนูญที่มีบท 279 ได้ อยากให้กำหนดบทเฉพาะกาล เพื่องดเว้นบังคับใช้แก่พี่น้องประชาชนคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะการรับหลักการหรือการเห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ เป็นความผิดที่ร้ายร้ายในหลักการของศาสนาอิสลาม”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ส.ส.ซูการ์โน มะทา
