หลังจากที่ นายฮาเซ็ง วาหนิ หรือ “สายฝน รัตนภาณุ” อายุ 27 ปี แชมป์มวยรอบปูนเสือเวที 7 สี ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีด ปากคอนายแวนู วาหนิ อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นบิดาของตัวเอง จนเสียชีวิต ภายในบ้านพักที่หมู่ที่ 4 บ้านตะโล๊ะสาลี ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา ก่อนที่จะหลบหนีไป โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา (คลิ๊ก อ่านข่าวนี้)
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบตัวนายฮาเซ็ง นอนหลับอยู่ภายในมัสยิดดารุสสาลาม ตะโล๊ะสาลี ม.4 ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา หลังจากผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุแล้วหลบหนี ขึ้นเขาบือยอ 1 วันเต็ม
ข่าวน่าสนใจ:
- กล้องวงจรปิดจับภาพ 2 โจรใจบาปย่องขโมยพุ่มกฐินกวาดเงินไปกว่าห้าพันบาท
- สาวร้องสื่อ แก๊งโจ๋ปาระเบิดปิงปองใส่บ้าน ลากมีดไล่ฟันกลุ่มลูกชาย เผยพฤติกรรมลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
- ตรัง 'น้องอ๋อง' มโนราห์รุ่นเยาว์ วัย 7 ขวบ ผู้หลงใหลในศิลปะการแสดงภาคใต้ รับรำแก้บนค่าครูตามแต่ศรัทธา
- แทบช็อก ชาวบ้านไปทำเรื่องขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส. 5 แสน ปีเดียวหนี้พุ่ง 3 ล้าน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ ก็พบนายฮาเซ็ง นอนอยู่ในมัสยิด ในสภาพอิดโรย นอนไม่รู้สึกตัว จึงทำการปลุกนายฮาเซ็งให้ตื่น ก่อนที่จะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม ที่อาคารฝ่ายปฎิบัติการ สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา โดยผู้ต้องหารายนี้ไม่ขัดขืนการจับกุมตัวแต่อย่างใด โดย พ.ต.อ.สันติ ศิริเกตุ ผกก.สส.ภ.จว.ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.รัชพล เจะซู รองผกก.สส.ภ.จว.ยะลา ได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมในเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ มีการอาการพูดจาวกวน ให้การว่าผู้ตาย บิดาของตนเองได้หาเรื่องทะเลาะมีปากเสียงมาก่อนหน้านี้ หลายครั้ง ซึ่งครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุได้ลงมือกระทำก่อเหตุสลด
และในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนายฮาเซ็ง เดินออกจากห้องสอบสวน เพื่อไปพบกับพนักงานสอบสวน ทางทีมข่าวได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนายฮาเซ็ง ซึ่งเขาบอกว่า เขายอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น สาเหตุเกิดจากความคิดส่วนตัว และอยากจะขอโทษบิดา และทุกคน ขอยอมรับและจะกลับตัวกลับใจ ซึ่งเมื่อทีมข่าวถามว่าเสพยาหรือไม่ก่อนที่จะก่อเหตุ นายฮาเซ็ง ได้นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะส่ายหน้า และไม่ตอบคำถามนี้
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.เมืองยะลา บอกว่า ได้นำตัวผู้ก่อเหตุ หลังสอบสวนเข้ม เพื่อทำสำนวนให้การรับสารภาพ ฝากขัง และส่งต่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ผลจากการสอบ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากสภาพในการควบคุม ผู้ต้องหามีสภาพอิดโรย พูดจาวกวน ยังให้การอะไรไม่ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจปัสสาวะ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ทางประมาณ 1 สัปดาห์ ค่ายมวยเดิมที่กรุงเทพ ได้รวบรวมเงินให้กลับขึ้นมาซ้อมมวย แต่เจ้าตัวหนีกลับมา ไม่ยอมกลับขึ้นไปซ้อม ซึ่งทาง พ่อกับแม่อยากให้กับไปซ้อมมวย ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ต้องหาได้ออกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ กลับมาที่บ้านประมาณ 03.00 – 04.00 น. ผู้ต้องหาเกิดความเครียด จึงก่อเหตุลงมือกับพ่อ และแม่ ซึ่งทางแม่หนีทัน จากนั้นเมื่อก่อเหตุเสร็จได้หลบหนี ความรู้สึกของผู้ก่อเหตุตอนนี้ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากนี้ไปก็จะเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นห่วง เพราะผู้ก่อเหตุเป็นนักมวยระดับแชมป์ ซึ่งมีความแข็งแรง เกรงว่าจะไปก่อเหตุกับคนอื่น พร้อมทั้งได้ไปร่วมแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัว ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้แล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองยะลา ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ สาเหตุการก่อเหตุ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่กำลังสวบสวนข้อมูล ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเชิงลึก ข้อมูลโทรศัพท์ เฟสบุ๊คส่วนตัว เพื่อนำมาประกอบ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ เป็นเหตุที่ลูกกระทำต่อพ่อ ฝากถึงน้องๆเยาวชน ทุกวันนี้กลุ่มผู้ที่กระทำผิดเด็กและเยาวชนมีอายุที่ต่ำลง ทางเจ้าหน้าที่ทุก สภ.ในพื้นที่มีมาตรการในการปราบปราม โดยเฉพาะปัญหาวัยรุ่นที่มีเรื่องของการก่อเหตุ ทะเลาะวิวาท ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความคึกคะนอง และการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่มีมาตราการการป้องกัน ทั้งโครงการครูแดร์ หรือ D.A.R.E. ร่วมกับภาคส่วนต่างๆช่วยกันอย่างเต็มที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: