หลังจากเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายชุดดำปิดบังใบหน้า เข้าปฎิบัติการปล้นรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กค 4052 ปัตตานี ขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ขณะเกิดเหตุจับตัวลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ เข้าเวรยามอยู่ จำนวน 4 คน มัดมือมัดเท้าไว้ก่อนทำการปล้นรถยนต์คันดังกล่าวไป
ต่อมาเวลาประมาณ 00.15 น. คนร้าย จำนวน 1 คน ได้นำรถยนต์ดังกล่าวที่ได้ประกอบระเบิดเอาไว้ มาจอดไว้บนถนนภายในซอยระหว่างสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ กับที่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ที่ 2 บ้านนาพร้าว ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และหลบหนีโดยมีคนร้ายอีก 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มารับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุระเบิดขึ้น จนทำให้อาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ และทรัพย์สินของทางราชการ รถยนต์ จักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ที่มุ่งประสงค์ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถูกโยงไปว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุปฎิบัติการเนื่องจากกรณีคดีตากใบ จะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม นี้ นั้น ทางพันเอกเกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า บอกว่า ในเรื่องนี้ทางท่านพลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ เฝ้าติดตามโดยเฉพาะทางการข่าว รวมทั้งยกระดับในการควบคุมพื้นที่ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นที่ตากใบเมื่อปี 2547 นั้น เป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการ ที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เพื่อที่จะให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ส่วนวันพรุ่งนี้ที่จะมีการชุมนุมตามสถานที่ต่าง ๆ นั้น ก็จะขอให้ทางพี่น้องประชาชนระมัดระวังตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีการสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
“ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่วิทยาลัยชุมชน อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวท่านได้สร้างความเข้าใจไปยังทุกภาคส่วนในเรื่องของเหตุการณ์ตากใบ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว เหตุการณ์ตากใบที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว จากผลการสอบสวนของคณะกรรมการอิสระ ก็สรุปได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของการที่มีผู้คนกลุ่มหนึ่ง พยายามที่จะก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อันนี้ไปดูได้เลยครับ จากผลการสอบสวน ของคณะกรรมการอิสระนะครับ ที่เขาสรุปมาแบบนั้น”
ทางโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาทางรัฐบาลก็ได้ดำเนินการในเรื่องของการเยียวยา รักษาเยียวยาสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบไปทั้งหมดแล้ว ด้วยวงเงินประมาณ 647 ล้านบาท ส่วนการหลบหนีของผู้ต้องหาทั้ง 14 คนนั้น เป็นปัญหาเฉพาะบุคคล เพราะผู้ที่ดำเนินการฟ้อง เป็นการฟ้องส่วนบุคคล ไม่ได้ฟ้องรัฐ และทางรัฐก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกหรืออะไรก็ตามให้ทั้ง 14 คนหลบหนี ในทางตรงข้ามทางรัฐมีความพยายามที่จะดำเนินการควบคุมตัว เพื่อมาดำเนินคดีในกรอบระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัด
